วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

ผมพองสวย...เรื่องง่าย ๆ

ผมพองสวย...เรื่องง่าย ๆ


ผม ทรงผม

            นี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณมีผมพองสวยได้อย่างยาวนาน …

          หลังจากสระผมเสร็จแล้ว อย่าใช้ผ้าขนหนูเช็ดแบบถูไปถูมา ให้ใช้ผ้าขนหนูซับเส้นผมเป็นส่วน ๆ แทน หลังจากซับน้ำเสร็จแล้ว ก็ทามูสแต่งผมลงไปให้ทั่ว แล้วใช้ไดร์เป่าในขณะดึงเส้นผมให้ตั้งขึ้น แบ่งผมออกเป็นช่อ ๆ จากนั้นใช้แปรงกลมวางไว้ใต้เส้นผม โดยมีไดร์เป่าผมจ่ออยู่ด้านบน แล้วเลื่อนทั้งแปรงและไดร์ลงมาอย่างต่อเนื่องพร้อม ๆ กัน ทำอย่างนี้กับเส้นผมทั้งศีรษะ

         เมื่อ เส้นผมแห้งดีแล้ว ก็รวบเส้นผมทั้งหมดให้ตั้งขึ้นโดยให้ปลายผมชี้ขึ้นไปบนเพดาน จากนั้นใช้ความร้อนเป่าบริเวณโคนผมเป็นเวลา 10 วินาที จับเส้นผมค้างไว้อย่างนั้นจนกว่าเส้นผมจะเย็นตัวลง แล้วจึงค่อยปล่อยลงมา

link ที่เกี่ยวข้ิิอง เครื่องสำอางเกาหลี,ริมฝีปากคล้ำ ทำไงดี?
เครดิึต bewtychic

ที่มาจาก นิตยสาร Lisa

วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554

ข้อห้ามยามนอน เพื่อทรวงอกสวย

ข้อห้ามยามนอน เพื่อทรวงอกสวย

ชุดชั้นใน
  

          อย่านอนคว่ำ เพราะในระยะยาวแล้ว การนอนคว่ำจะทำให้หน้าอกเสียรูปทรงที่ดีไป ทางที่ดีควรนอนในท่าตะแคง ทั้งซ้าย และ ขวา จะดีต่อ รูปทรง หน้าอก ของคุณมากกว่า

         อาบน้ำก่อนนอนเสมอ ป้องกันผิวหน้าอกที่แสนบอบบาง และ ง่ายต่อการเป็นสิว ด้วยการอาบน้ำทำความสะอาดผิวจากเหงื่อไคล และฝุ่นควัน ทุกวันก่อนเข้านอน ช่วยปกป้องผิว หน้าอก จากการเกิดสิวได้

         อย่าใส่ ยกทรงนอน นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน พบว่าการ ใส่ ยกทรง นานเกิน 12 ชั่วโมง จะเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการ เป็น มะเร็งทรวงอก ได้ ฉะนั้น ก็อย่าใส่ ยกทรง นอนเลย ถ้า กลัว หน้าอกเสียทรง เพราะ ชอบนอนหงาย แนะนำบราสำหรับใส่นอนโดยเฉพาะ

         ไม่ควรนอนหลับไปพร้อม ๆ กับโทรศัพท์ หรือวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ ๆ ในระดับ หน้าอก ใครที่ชอบใช้มือถือเป็นนาฬิกาปลุกยามเช้า กรุณาเก็บมือถือไว้ห่าง ๆ เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า โทรศัพท์มือถือ จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาขณะเปิดเครื่องไว้ เพราะฉะนั้น ตอนนอนก็ควรปิดโทรศัพท์มือถือซะดีกว่า

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี,วิธีหมักผม หมักผมจากธรรมชาติ 
เครดิต bewtychic
ที่มาจาก Girly Society

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

ว่าด้วยเรื่องรอยตีนกา

ว่าด้วยเรื่องรอยตีนกา

ว่าด้วยเรื่องรอยตีนกา
เรา ทุกคนเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับรอยตีนกากันมาบ้างแล้ว และหลายคนก็อาจมีประสบการณ์เกิดรอยตีนกาขึ้นกับตัวเอง ในขณะที่อีกหลาย ๆ คนกำลังเดินทางเข้าสู่วัยแห่งการมีรอยตีนกาซึ่งจะมาถึงในอีกไม่ช้า แม้ว่ากระบวนการเกิดรอยตีนกาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นธรรมชาติของการแก่ชรา แต่ถ้าเป็นไปได้พวกเราทุกคนก็คงอยากจะแลดูอ่อนเยาวน์อยู่เสมอ ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุของการเกิดรอยตีนกา และจะทำอย่างไรจึงจะสามารถลดรอยตีนกาที่เกิดขึ้นแล้วได้
สาเหตุของการเกิดรอยตีนกาและรอยเหี่ยวย่น
1. อายุที่มากขึ้น
รอย เหี่ยวย่นเป็นเหมือนของแถมที่มาพร้อมกับความแก่ชราอย่างหลีก เลี่ยงได้ยาก ด้วยอายุที่มากขึ้นเซลล์ผิวจะเริ่มไม่เกาะกันเหมือนเดิม ในชั้นผิวด้านในที่เรียกว่า dermis จะบางลง elastin และเส้นใยคอลลาเจนในผิวที่ทำหน้าประสานกันกับผิวชั้นนอกจะเริ่มหย่อนคล้อย ทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยและหย่อนยานตามมาด้วย เมื่ออายุเรามากขึ้นผิวจะสูญเสียความยืดหยุ่น และสูญเสียความสามารถในการเก็บกักความชุ่มชื่น เมื่อมีแผลเกิดขึ้นบนใบหน้าก็จะหายได้ช้ากว่าตอนเป็นเด็ก ทั้งหมดเหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดรอยตีนกาและรอยเหี่ยวย่นต่าง ๆ บนใบหน้า
2. การหดตัวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า
เส้น ริ้วรอยต่าง ๆ ที่บริเวณเหนือคิ้วและริ้วรอยที่หางตาเป็นที่เชื่อกันว่าเกิดจากการหดตัว ของกล้ามเนื้อเล็ก ๆ ในบริเวณนั้น การหดตัวของกล้ามเนื้อที่ว่านี้อาจเกิดจากการยิ้ม การขมวดคิ้ว การชำเลืองตามอง หรือแม้แต่การกระพริบตา ริ้วรอยต่าง ๆ ที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ผ่านทางกล้ามเนื้อบนใบหน้าจะค่อย ๆ เห็นได้ชัดยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ การใช้งานกล้ามเนื้อขนาดเล็กบนใบหน้าและแรงโน้มถ่วงของโลกทำให้ขากรรไกร และผิวรอบดวงตาเกิดอาการหย่อนยาน
3. ผิวหน้าถูกแสงแดดทำร้าย
เมื่อ ผิวหน้าได้รับแสงอุลตร้างไวโอเลตเป็นระยะเวลาหนึ่ง เมื่อแก่ตัวลงจะปรากฏริ้วรอย และถ้าถูกแดดบ่อยเป็นประจำเราอาจมีอาการแก่ก่อนวัยอย่างเห็นได้ชัด ริ้วรอยต่าง ๆ เป็นของแถมอีกอย่างหนึ่งที่มาพร้อมกับแสงแดดที่แผดเผาทำร้ายผิวของเรา แสงอาทิตย์ที่ทำให้การการแก่ก่อนวัยหรือที่เราเรียกว่า photoaging เกิดจากการที่แสงแดดไปทำลาย collagen fiber ทำให้เกิดการสร้าง elastin อย่างผิดปกติ เมื่อรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตทำลายเนื้อเยื้อของผิว เอ็นไซน์ที่เรียกว่า metalloproteinase จะถูกสร้างขึ้นมาและเจ้าเอ็นไซน์ตัวนี้จะทำการสร้าง และกำหนดรูปแบบ collagen ของผิวคุณขึ้นมาใหม่ ในกระบวนการที่เกิดขึ้นนี้จะมี collagen fiber ถูกทำลายไปด้วยทำให้เกิดรูปแบบ fiber ที่เป็นแผลหรือที่เรียกว่า solar scar ดังนั้นชั้น fiber ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จึงไม่มีประสิทธิภาพเท่าเดิมเพราะเกิดการทำลายและสูญ เสีย collagen นั่นเอง และกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่แสงแดดมีโอกาสทำร้ายผิวของคุณ
4. การสูบบุหรี่
ผิว ที่มีสุขภาพดีนั้นจะต้องมีการสร้างตัวเองใหม่อยู่เสมอ ในขณะที่ collagen เก่า ๆ ในชั้นผิวจะต้องถูกทดแทนด้วย collagen ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่เป็นอย่างนี้เป็นวัฏจักร นักวิจัยค้นพบว่าการสูบบุหรี่จะทำให้การสร้าง collagen ใหม่ลดลงอย่างมาก ซึ่งเมื่อผิวขาด collagen ชุดใหม่ที่สร้างขึ้นมาทดแทนของเก่าก็จะเป็นการพัฒนาไปสู่การเกิดริ้วรอย เหี่ยวย่นนั่นเอง
5. จะแก้ไขรอยตีนกา และริ้วรอยต่าง ๆ ได้อย่างไร?
มี วิธีการรักษาและ treatment มากมายที่สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นครีมทาหน้าหรือโลชั่นที่มีขายกันอยู่เป็นจำนวนมาก เพียงแต่คุณจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับครีม และโลชั่นเหล่านั่นอย่างละเอียดซักหน่อย เพื่อที่จะได้ของดีมาใช้ไม่ใช่ของที่เน้น การตลาด ใส่บางอย่างนิดหน่อยก็เอามาเคลมว่ามีสารตัวนั้นตัวนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีปริมาณสารนั้น ๆ มากเพียงพอในขวดที่จะทำให้เกิดประโยชน์ได้ เรียกว่าใส่สารตัวนั้นมาในขวดเพียงเพื่อจะได้เคลมสรรพคุณ
นอกจาก นี้ยังสามารถรักษาได้ด้วยการฉีด Botox หรือสาร Filler ตัวอื่นซึ่งคุณสามารถศึกษาได้จากเว็บไซด์ที่เกี่ยวข้องกับด้าน cosmetic surgery หรืออาจจะเลือกการผ่าตัดหนังตาเพื่อแก้ไขรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา ส่วนริ้วรอยที่หน้าผากอาจใช้การผ่าตัดยกกระชับหน้าผากเข้ามาช่วย ส่วนอื่น ๆ บนใบหน้าอาจใช้การผ่าตัดยกหน้า หรือการดูดไขมันบางส่วนช่วยด้วย และยังมีตัวเลือกกับกับ laser treatment อีกหลายประเภทหลายวิธีที่นำมาใช้ได้เช่นกัน ซึ่งแต่ละวิธีก็ให้ผลแตกต่างกันไปนั่นเอง ทั้งนี้คุณควรจะมีการปรึกษาแพทย์ที่ให้การรักษาอย่างจริงจัง ซึ่งแพทย์จะสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณได้

เครดิต bewtychic

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

มาดูแลรักษาสุขภาพริมฝีปากกันคะ

มาดูแลรักษาสุขภาพริมฝีปากกันคะ

มาดูแลรักษาสุขภาพริมฝีปากกันคะ ริม ฝีปากดำคล้ำ จางได้ คุณคงจะไม่ปฏิเสธว่า ริมฝีปากนั้นเป็นส่วนประกอบหนึ่งบนใบหน้าที่มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ยิ่งถ้ามีริมฝีปากแดง อวบอิ่ม ได้รูป


ริมฝีปากดำคล้ำ จางได้ คุณคงจะไม่ปฏิเสธว่า ริมฝีปากนั้นเป็นส่วนประกอบหนึ่งบนใบหน้าที่มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ยิ่งถ้ามีริมฝีปากแดง อวบอิ่ม ได้รูป ก็จะยิ่งดึงดูดสายตาแก่ผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังบ่งบอกถึงการมีสุขภาพดีด้วยค่ะ
ดังนั้น ใครที่ประสบกับปัญหา ?ริมฝีปากดำคล้ำ? คงจะสร้างความหนักอกหนักใจให้ไม่น้อย ฉบับนี้หมอจึงมีคำแนะนำง่ายๆ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดรอยคล้ำที่ริมฝีปาก ดังนี้ค่ะ
มาดูแลรักษาสุขภาพริมฝีปากกันคะ

ควร เลือกใช้ลิปสติกที่ได้มาตรฐาน สีอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ ไม่ควรใช้ดินสอเขียนตัดขอบปากแรงๆ หรือสีเข้มจัดเกินไป นอกจากนี้ควรหมั่นทาลิปมันหรือลิปกลอส เพื่อบำรุงความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากอย่างสม่ำเสมอ และประการสุดท้าย ซึ่งสำคัญไม่น้อยก็คือ ควรงดสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดค่ะ

หากคุณได้ ปฏิบัติตัวดังกล่าวข้างต้นมาตลอดแล้ว แต่ยังเกิดความกังวลเรื่องริมฝีปากดำคล้ำ มากกว่าคนปรกติทั่วไป ซึ่งสาเหตุน่าจะเป็นจากพันธุกรรม ก็อย่าเพิ่งน้อยเนื้อต่ำใจไปเลยค่ะ คุณสามารถมาปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อพิจารณารักษาด้วยเลเซอร์ได้ค่ะ

การ รักษาริมฝีปากดำคล้ำด้วยเลเซอร์ มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก ปลอดภัย และรวดเร็ว เริ่มด้วยแพทย์จะทายาชาบนริมฝีปากทิ้งไว้ ประมาณ 45 นาที จากนั้นจะใช้แสงเลเซอร์เข้าไปทำให้เม็ดสีกระจายให้มีขนาดเล็กๆ ขณะทำเลเซอร์จะไม่รู้สึกเจ็บ หลังการรักษาประมาณ 4-6 วัน ริมฝีปากจะมีสีอ่อนลง สำหรับผู้ที่มีริมฝีปากสีเข้มมาก ถ้าได้รับการรักษาซ้ำจะได้ผลการรักษาที่ดีมากขึ้นค่ะทีนี้เมื่อริมฝีปากที่ เคยดำคล้ำสีจางลงแล้ว ก็อย่าลืมปฏิบัติตัวตามที่แนะนำไปข้างต้นด้วยนะคะ เพื่อป้องกันริมฝีปากกลับมาดำคล้ำจนหมดสวยอีกค่ะ

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี, เคล็ดลับที่ทำให้ผิวขาว สวยใส
เครดิต bewtychic 

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

15 ผักและผลไม้ที่ผิวหน้าต้องการ

15 ผักและผลไม้ที่ผิวหน้าต้องการ

15 ผักและผลไม้ที่ผิวหน้าต้องการ มาดูกันนะค่ะว่า ผักผลไม้ 15 อย่างที่ว่านั้นคืออะไร จะใช่แบบที่เราทานอยู่ทุกวันหรือป่าว มีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ


1. ว่านหางจระเข้ : บำรุงผิว ป้องกันฝ้า ลบรอยจุดด่างดำ รักษาสิว
2. แตงกวา : ช่วยสมานผิว ลบรอยเหี่ยว ย่น
3. มะเขือเทศ : ช่ายสมานผิว ลบรอยเหี่ยว ย่นและจุดด่างดำ
4. ขมิ้นสด : บำรุงผิวหน้าผุดผ่องสดใสอ่อนวัย และช่วยให้สิวยุบเร็ว
5. กล้วยน้ำว้าสุก : บำรุงผิวนุ่มเนียนอ่อนวัย
6. หัวไชเท้า : ช่วยลดรอยฝ้าและกระให้จางหาย
7. ใบบัวบก : ลดรอยตีนกา
8. มะขามเปียก : บำรุงผิวหน้าขาวเนียน ลดรอยฝ้าจุดด่างดำ ชำระสิ่งสกปรก
9. กล้วยหอม : ลดรอยเหี่ยววววว ย่น ถนอมผิวหน้าให้ชุ่มชื่น
10.ทุเรียน : ลดปัญหาสิวเสี้ยน
11.มะนาว : ลดสีเข้มของกระบนใบหน้า
12.มะม่วงสุก : แก้ปัญหาฝ้าและสิว
13.มะเขือเทศ : รักษาสิวหัวดำ ป้องกันรูขุมขนอุดตัน ทำความสะอาดผิวหน้า
14.สับปะรด : บำรุงผิวหน้าขาวใส และช่วยขจัดเซลล์ตาย ให้หลุดออก
15.แตงโม : บำรุงผิวหน้าชุ่มชื่นสดใส

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี,เคล็ดลับ ผิวขาวใส แบบใส่ใจสุขภาพ
เครดิต bewtychic

วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

นิสัยง่ายๆ ห่างไกลริ้วรอย

นิสัยง่ายๆ ห่างไกลริ้วรอย

ริ้วรอยเพิ่มขึ้นเต็มวัย แต่จะทำอย่างไรให้ห่างไกลริ้วรอยมากที่สุด วันนี้เรามีวิธีมาบอก

นิสัยง่ายๆ ห่างไกลริ้วรอย


ถ้าชอบนอนคว่ำหน้า ให้เลิกนิสัย โดยปรับท่ามาเป็นนอนหงาย เพื่อกันไม่ให้ใบหน้าเสียดสีจนเกิดเป็นริ้วรอย

เมื่อ พูดคุยกับคนอื่น พยายามเลี่ยงการแสดงอารมณ์ด้วยการยกหน้าผากขึ้นลง ควรสื่อสารด้วยท่าทางอื่นๆ และเมื่ออยู่คนเดียวลองฝึกวางสีหน้าให้ดูผ่อนคลายบ้างระมัดระวังการแสดง อารมณ์ทางสีหน้าแบบไร้ความหมาย เช่น บางคนนั่งกินข้าวเฉย ๆ ก็ยังขมวดคิ้วอยู่

หันมาออกกำลังกายและรับประทานผักผลไม้อย่างสม่ำเสมอ

ทาครีมกันแดดปกป้องผิวทุกวันแม้จะอยู่แต่ในบ้าน เสมือนเป็นขั้นตอนต่อเนื่องทุกครั้งหลังจากที่ทามอยส์เจอไรเซอร์เสร็จ

หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ สิ่งเหล่านี้จะพรากความชุ่มชื้นไปจากผิว

ถ้าไม่อยากมีริ้วรอยก็ลองทำตามคำแนะนำกันดูได้.
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์,bewtychic

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

เทคนิคแก้ไขการแต่งหน้า

                                            เทคนิคแก้ไขการแต่งหน้า
ใครที่แต่งหน้าแล้วรองพื้นหนาเกินไป ปัดแก้มเข้มไป วันนี้เรามีเทคนิคแก้ไขเวลาแต่งหน้าพลาดมาบอก


เทคนิคแก้ไขการแต่งหน้า

รองพื้นหนา ให้ใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีด จากนั้นใช้พัฟฟองน้ำเกลี่ยรองพื้นที่ลงไว้ให้ทั่วใบหน้า พอหน้าแห้งก็พร้อมแต่งหน้าขั้นตอนต่อไปได้

เขียนคิ้วเข้ม ให้ใช้มาสคาร่าสีทองหรือสีน้ำตาลทองมาปัดทับคิ้วอีกที จะทำให้สีคิ้วดูอ่อนลง

ทาอายแชโดว์สีเข้ม ให้ใช้พู่กันแต่งหน้า หัวแปรงเล็กค่อยๆปัดฝุ่นอายแชโดว์ที่เข้มเกินไปออก

ลงอายไลเนอร์แบบน้ำ ทาแล้วเส้นเป็นเส้นแบบที่ต้องการ ให้เขียนอายไลเนอร์ให้เส้นใหญ่ขึ้น เพื่อกลบความผิดพลาด หากต้องการเขียนใหม่ให้ใช้คลีนเซอร์ลบให้เรียบร้อย รอให้แห้ง แล้วค่อยลงอายไลเนอร์ใหม่

ปัดมาสคาร่าเลอะใบหน้า ให้ใช้คอตตอนบัดจุ่มอายรีมูฟเวอร์ เช็ดบริเวณที่เลอะออก จากนั้นทาแป้งบริเวณดังกล่าวให้เรียบเนียน

ปัดแก้มแดงเกินไป ให้ใช้บลัชออนสีอ่อนกว่า เลือกแบบมีประกายมุกปัดทับ จะทำให้สีดูอ่อนลง หรือใช้พู่กันขนาดใหญ่แต้มแป้งทูเวย์ แล้วปัดแก้มทั่วบริเวณก็ช่วยได้ ห้ามใช้พัฟเพราะจะทำให้แป้งดูหนาเกินไป

วิธีง่ายๆลองนำไปใช้ดูได้.
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต bewtychic 

วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

=สวยใสไร้ขีดจำกัด=


การแต่งหน้า

·       ไม่ต้องใช้ครีมบำรุงผิวก่อนรองพื้น เพราะอาจทำให้หน้ามันเยิ้มเวลาถ่ายรูป
·       ทาแป้งเยอะ ๆ แต่อย่าให้ดูหนา
·       ถ้าต้องถ่ายรูปแบบใช้แสงแฟลช ให้แต่งหน้าเข้มขึ้น เพราะแสงแฟลชจะทำให้เครื่องสำอางสีจางลง
·       เขียนขอบปาก จากนั้นจุ่มสำลีก้านลงในแป้ง แล้วทาไปตามเส้นขอบปาก จะทำให้ริมฝีปากดูเด่นขึ้น
·       อย่าทำผมสีขาวหรือสีประหลาด ๆ
·       หลีกเลี่ยงทรงผมอลังการหรือใหญ่โตเกินเหตุ มันดูเสแสร้งเกินไป
·       นางแบบชอบออกกำลังกายด้วยการวิ่ง พวกเธอเลือกการวิ่งไม่ใช่เพราะแค่ในทำให้หุ่นดี แต่ยังช่วยสุขภาพผิวดีอีกด้วย
·       นางแบบส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การฝึกประสบการณ์จริงเป็นหนทางเดียวในการเรียนรู้ นางแบบที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่เคยเข้าโรงเรียนสอนนางแบบมาก่อน แต่ละคนล้วนออกแบบท่าทางการเดินด้วยตัวเอง การโพสต์ท่ามากเกินพอดีถือว่าล้าสมัยไปแล้ว
เครดิต bewtychic
 

วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554

5 นิสัยง่าย ๆ ช่วยคุณห่างไกลริ้วรอย

5 นิสัยง่าย ๆ ช่วยคุณห่างไกลริ้วรอย

5 นิสัยง่าย ๆ ช่วยคุณห่างไกลริ้วรอย เคล็ดลับดีๆ ช่วยป้องกันใบหน้าไม่ให้มีริ้วรอยก่อนวัยกับ 5 นิสัยง่าย ๆ ช่วยคุณห่างไกลริ้วรอย


เคล็ดลับดีๆ ช่วยป้องกันใบหน้าไม่ให้มีริ้วรอยก่อนวัยกับ 5 นิสัยง่าย ๆ ช่วยคุณห่างไกลริ้วรอย
1. ถ้าคุณชอบนอนคว่ำหน้า เลิกนิสัยนั้นซะ ปรับท่ามาเป็นนอนหงาย เพื่อกันไม่ให้ใบหน้าคุณเสียดสีจนเกิดเป็นริ้วรอย

2. เมื่อพูดคุยกับคนอื่น พยายามเลี่ยงการแสดงอารมณ์ดราม่าจัด ๆ ด้วยการยกหน้าผากขึ้นลง มีวิธีสื่อสารด้วยท่าทางอื่นอีกมากมาย ที่สามารถใช้แทนท่าทางนี้ได้ และเมื่อคุณอยู่คนเดียวลองฝึกวางสีหน้าให้ดูผ่อนคลายบ้างระมัดระวังการแสดง อารมณ์ทางสีหน้าแบบไร้ความหมาย เช่น บางคนนั่งกินข้าวเฉย ๆ ก็ยังขมวดคิ้วอยู่

3. หันมาออกกำลังกายและรับประทานผักผลไม้อย่างสม่ำเสมอ

4. ทาครีมกันแดดปกป้องผิวทุกวันแม้คุณจะอยู่แต่ในบ้านก็เถอะ เสมือนเป็นขั้นตอนต่อเนื่องทุกครั้งหลังจากที่คุณทามอยส์เจอไรเซอร์เสร็จ

5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ สิ่งเหล่านี้จะพรากความชุ่มชื้นไปจากผิวของคุณ

เครดิต bewtychic

วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

ดูแลผิวอย่างไรให้ขาวขึ้น

ดูแลผิวอย่างไรให้ขาวขึ้น

ดูแลผิวอย่าง ไรให้ขาวขึ้น ดูแลผิวอย่างไรให้ขาวขึ้นนั้นเราต้องพึ่งผลิตภัณฑ์สำหรับผิวขาว ซึ่งนอกจากจะปลอดภัยแล้ว เมื่อทาก็จะทำให้ผิวขาวทันที

โดย youth-and-beauty in Skin เนื่องมาจากในแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) โดยประกอบด้วยรังสี UV - A และ UV - B ซึ่งหากจะเปรียบเทียบกันที่ปริมาณแล้วรังสี UV - A จะมีปริมาณสุงกว่ารังสี UV - B หลายเท่าตัว แต่รังสี UV - B จะมีผลต่อผิวหนังมากกว่ารังสี UV - A คือจะทำให้เกิดอาการไหม้แดด กระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างสี และเมื่อมีการสะสมมากๆจะก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้

ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันนี้ อาจจำแนกตามประเภทผลิตภัณฑ์ได้ดังนี้

ผลิตภัณฑ์ แป้ง : เมื่อทาผิวจะขาวทันทีเพราะแป้งจะสะท้อนแสง แต่ไม่นิยมใช้เพราะเมื่อทาแล้วหน้าจะขาวโพลนดูไม่เป็นธรรมชาติการผสมสารกัน แดดชนิดแสงลงในแป้ง เช่น titanium dioxide และ zineoxide ซึ่งเป็นสารกันแดดชนิดทึบแสง เมื่อทำการบดผงละเอียดจะทำให้ความทึบแสงลดลง ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มประสิทธิภาพการสะท้อนแสงได้ดีขึ้น จึงนิยมนำไปผสมในผลิตภัณฑ์สำหรับผิวขาว ซึ่งนอกจากจะปลอดภัยแล้ว เมื่อทาก็จะทำให้ผิวขาวทันทีแต่จะมีข้อเสียตรงที่ถ้าใช้ในปริมาณสูงเกินไป ผิวก็จะขาวเกินไปด้วย และจะขาวมากขึ้นเมื่อใช้ในระยะยาวเพราะสารกันแดดชนิดทึบแสงนี้จะลดปริมาณแสง อัลตราไวโอแลตที่จะเข้าไปในเซลล์ทำให้การทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีลดลง

การ ผสมสารกันแดดชนิดโปร่งใสในครีมทาผิวหน้า เช่น PABA, cinnamate,oxybenzone, salicylate ฯลฯ สารเหล่านี้จะดูดซับแสงไว้ไม่ให้ผ่านเข้าไปกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสี ทำให้สีผิวขาวขึ้นหลังใช้ผลิตภัณฑ์นี้ประมาณ 3-4 สัปดาห์ สารกันแดดแบบโปร่งใสนิยมผสมในครีมทาผิวทุกชนิด เพราะไม่ทำให้คุณสมบัติทางกายภาพของครีมเปลี่ยนไป และประสิทธิภาพของครีมนอกจากลดสีผิวได้แล้วยังช่วยลดการเสื่อมของผิวจากแสง อัลตราไวโอเลตได้ จึงนิยมโฆษณาครีมทาผิวชนิดนี้ว่ามีสารป้องกันริ้วรอย

ดูแลผิวอย่าง ไรให้ขาวขึ้น

สาร เร่งการหลุดลอกของผิวหนัง เช่น สาร alpha hydroxy acid (AHA) ซึ่งเป็นกรดผลไม้ที่ได้จากธรรมชาติ เช่น มะนาว ส้ม กากน้ำตาลทรายแดง แอปเปิ้ล นมเปรี้ยว ฯลฯ ซึ่งสารเหล่านี้มักนิยมนำมาผสมในครีมทาผิว โดยหวังผลว่าเมื่อผิวคล้ำหลุดลอกออก ผิวใหม่ซึ่งขาวกว่าจะขึ้นมาทดแทนผิวเดิม ทั้งนี้ยังเป็นข้อถกเถียงถึงประสิทธิภาพว่าลดสีผิวได้จริงหรือไม่ แต่ข้อดีของกรดผลไม้ที่เชื่อถือได้คือการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง

วิตามิน ซี หรือวิตามินอี ที่ผสมในครีมทาผิวที่วางจำหน่ายในปัจจุบันนี้ยังไม่มีการวิเคราะห์ถึง ประสิทธิภาพที่แน่ว่ามีประสิทธิภาพในการทำลายอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวอันตราย ที่ทำลายเซลล์ผิวหนังและเซลล์เม็ดสี

กรดวิตามิน เอ จะช่วยเร่งการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังและอาจลดการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสี แต่สารนี้ไม่อนุญาตให้ผสมในเครื่องสำอางทั่วไป เพราะจะทำให้ระคายผิว Hydropuinone และสารปรอท เป็นตัวยาหลีกในการรักษาฝ้าที่สามารถลดการทำงานของเอนไซม์tyrosinase แต่กระทรวงสาธารณสุข ไม่อนุญาตให้ผสมในเครื่องสำอาง ดังนั้นในการผลิตเครื่องสำอางจึงได้นำสาร kojic acid, licorice, extract ฯลฯ มาใช้ ซึ่งมีคุณสมบัติลดการทำงานของเอนไซม์เช่นกัน แต่ประสิทธิภาพที่ได้ยังไม่แน่ชัดเพราะยังไม่มีการพิสูจน์ในผิวของคน หากจะว่าไปแล้ว ครีมทาผิวขาวที่ดีที่สุดก็คือการหลบเลียงแสงแดดและหากต้องการใช้ครีมทาผิว ขาวก็เลือกใช้เป็นชนิดที่มีส่วนผสมของสารกันแดดก็เพียงพอแล้วค่ะ
 
 เครดิต bewtychic 

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

เทคนิคการแต่งดวงตา

เทคนิคการแต่งดวงตา

ถ้าคุณมีดวงตาเล็ก  ให้ ใช้สีอายแชโดว์สีเข้มไล้บริเวณหางตาแล้วค่อยเบจสีให้อ่อนลงไปทางหัวตา แล้วใช้ดินสอเขียนขอบตาสีดำเขียนให้ชิดโคนขนตาให้มากที่สุด โดยเริ่มเขียนจากบริเวณหางตามาจรดหัวตา หากเส้นดินสอยังเลอะไม่สม่ำเสมอ ให้คุณใช้คอตตอนบัดเกลี่ยให้เนียน แล้วใช้พู่กันปลายเล็กทาอายแชโดว์สีเดียวกับดินสอทาทับลงไปบนเส้นดินสออีก ครั้ง เพื่อลดความแข็งกระด้างของเส้นดินสอ ส่วนขอบตาล่างใช้ดินสอเขียนขอบตาที่มีสีอ่อนกว่าดินสอเขียนขอบตาบน โดยเริ่มเขียนตั้งแต่ หางตา (ให้ชิดกับหางตาบน) มาในระยะ 2/3 ของตาแล้วหยุดพักไว้ แล้วใช้พู่กันปลายแหลมเล็กทาสีอายแชโดว์สีเดียวกับดินสอเขียนขอบตา ทาทับเส้นดินสอที่เขียไว้อีกครั้ง ใช้ที่ดัดขนตาตัดขนตา  เริ่มตั้งแต่โคนขนตา กลางขนตา และปลายขนตา แล้วใช้มาสคาร่าสีดำหรือน้ำตาล ถ้าปัดขนตาบนให้คุณมองต่ำๆแล้วจับมาสคาร่าเป็นแนวนอน ปัดจากโคนขนตาด้านล่างไปจนถึงปลายขนตา ปัดซ้ำไปซ้ำมาจนขนตาคุณดูยาว ส่วนขนตาล่างให้คุณตั้งมาสคาร่าขึ้น แล้วปัดมาสคาร่าทั่วทุกเส้นขนตา หากมาสคาร่าจับกันเป็นก้อน ใช้แปรงปัดคิ้วที่มีลักษณะคล้ายหวี หวีเส้นขนตาให้แยกออกจากกัน ไม่ควรเขียนเส้นอายไลเนอร์เส้น หน้าและใหญ่สำหรับคนตาเล็ก  เพราะจะยิ่งเน้นดวงตาคุณให้ดูเล็กมายิ่งขึ้น

ถ้าคุณเป็นสาวตากลมโต 
ควรใช้สีอายแชโดว์สีกลางและสีอ่อน อย่าเน้นสีอายแชโดว์ให้ดำเข้มมากเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ดวงตาคุณดูดุ

สำหรับสาวตาโต 
เมื่อ ทาสีอายแชโดว์เนียนสวยที่เปลือกตาแล้ว คุณอาจใช้ดินสอเขียนขอบตาสีเข้มเขียนเส้นบางๆ แล้วปัดมาสคาร่าเลยก็ได้ แต่ถ้าอยากใช้อายไลเนอร์ ควรเขียนเส้นให้เล็กและบางมากที่สุด

สำหรับสาวตาห่าง 
ควรพยายามทาสีอายแชโดว์สีเข้มให้ค่อนมาทางหัวตา และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สีอ่อนบริเวณหัวตา เพราะจะทำให้ตาคุณดูห่างมากยิ่งขึ้น

ถ้าคุณมีดวงตาที่ชิดกันมาก 
ควร เน้นอายแชโดว์สีอ่อนมากๆบริเวณหัวตา แล้วเน้นสีเข้มๆที่หางตา ข้อห้ามสำหรับสาวตาชิด ไม่ควรเน้นการแรเงาบริเวณข้างจมูกให้เด่นเพราะจะยิ่งทำให้ตาดูชิด
 

การเขียนคิ้ว

ถ้า คุณมีคิ้วที่สวยได้รูปอยู่แล้ว คุณเพียงแต่ใช้พู่กันปัดคิ้วทาสีอายแชโดว์สีน้ำตาลหรือใกล้เคียงกับสีคิ้ว คุณ ปัดเบาๆให้ทั่วขนคิ้วหรือถ้าต้องการออกงานกลางคืน ก็ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีอ่อนกว่าคิ้ว เขียนบริเวณฐานล่างของคิ้วไปตามโครงของคิ้วจริง แล้วใช้พู่กันปัดคิ้วทาสีอายแชโดว์สีใกล้เคียงกับดินสอเขียนคิ้ว ระบายทับให้ทั่วขนคิ้วอีกครั้ง คุณจะมีคิ้วที่สวยคมได้รูปแต่ไม่แข็งกระด้าง

ถ้าคุณมีขนคิ้วที่หนา ไม่ได้รูป 
ควร กันคิ้วให้ได้รูป โดยกันบริเวณขนคิ้วด้านล่างสุดก่อน จากด้านหางคิ้วมาสู่บริเวณหัวคิ้ว ถ้ายังรกอยู่ให้ค่อยๆกันแนวขนคิ้วให้สูงขึ้นมาอีกนิด ทำซ้ำเหมือนเดิมจนขนคิ้วคุณโก่งสวยสมใจ

ถ้าขนคิ้วไม่เป็นระเบียบ 
หลังจากเขียนคิ้วเสร็จแล้ว ใช้มาสคาร่าเจลใส ปัดทับขึ้นไปอีกครั้งจะทำให้ขนคิ้วดูมีระเบียบสวยงาม

ถ้าคุณมีผิวมัน 
ควรใช้เครื่องสำอางชนิดกันน้ำ ทั้ง ดินสอเขียนคิ้ว, มาสคาร่า และอายไลเนอร์ ไม่ควรใช้อายแชโดว์ชนิดครีมเพราะจะทำให้ดวงตาคุณเลอะเทอะ


link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี,เกร็ดความรู้วิธีการกระชับรูขุมขนแบบง่าย ๆ ค่ะ
เครดิต bewtychic 

วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554

เคล็ดลับ 10 ข้อให้คุณดูสดใสขึ้นทันตา

เคล็ดลับ 10 ข้อให้คุณดูสดใสขึ้นทันตา

          1. อิ่มกำลังดีกับมื้อเช้าแสนวิเศษ
           เราต่างก็รู้เหมือนๆ กันว่า มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุด แต่หลายคนต้องรีบเร่งทำเวลาก่อนออกจากบ้าน จึงพลาดมื้อเช้าไปอย่างน่าเสียดาย แม้จะพยายามชดเชยด้วยเครื่องดื่มร้อนๆ หรือน้ำผลไม้สักแก้ว กับขนมขบเคี้ยวจำพวกแป้งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ ขนมปังหรือ ปาท่องโก๋ก็ตาม แต่พลังงานที่ได้รับก็ยังไม่เพียงพอให้คุณได้เต็มที่กับงานและทุกสิ่งที่ ประเดประดังเข้ามาในวันนั้น 
           ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากคุณผ่านคืนวานอันเหนื่อยล้า และต้องการเรียกพลังกลับคืนมาโดยเร่งด่วน ต้องถือเป็นกฏเหล็กที่จะไม่งดมื้อเช้าในวันนั้น ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นมื้อหนัก อาหารเช้าชุดใหญ่อะไรเลย เพราะอาจรู้สึกว่าท้องไส้ยังไม่พร้อมสำหรับการย่อยอาหารปริมาณมากๆ ขอเพียงแต่พยายามเลือกกินอาหารให้ครบห้าหมู่ อย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วตบท้ายด้วยผลไม้สด และนมหรือโยเกิร์ตสักถ้วย ก็จะช่วยเรียกความกระปรี้กระเปร่ากลับคืนมาได้
           2. สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
           เป็นทางออกง่ายๆ ที่หลายคนมองข้ามเวลาเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หรือเกิดความเครียดในตัวมากๆ ให้ลองแก้ง่ายๆ ด้วยการสูดลมหายใจทางจมูกเข้าปอดลึกๆ กลั้นไว้ในช่องอกประมาณ 15-20 วินาที ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกทางปากให้หมด ทำซ้ำเช่นนี้ประมาณ 3 ครั้ง คุณจะพบว่ารู้สึกสดชื่นขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะหายใจเข้าออกกันเพียงช่วงสั้นๆ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ วิธีนี้จะทำให้ออกซิเจนเข้าปอดคุณอย่างเต็มที่ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง และเลือดลมในร่างกายไหลเวียนสูบฉีดดีขึ้น
           3. ดื่มนมสด
           นมสดแม้หนึ่งแก้วเล็กๆ มีโปรตีนชนิดที่ช่วยสร้างพลังงานให้คุณได้ถึง 3 กรัม ทำให้ร่างกายปรับตัวได้อย่างสมดุล นอกจากนี้ในนมสดก็ยังเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญต่อร่างกายอีกด้วย ในหนึ่งแก้วขนาด 100 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 120 มิลลิกรัม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันได้ดี แถมยังมีฟอสฟอรัสและวิตามินครบถ้วนทั้ง A,B.C, และ E อีกต่างหาก
           4. แวบไปว่ายน้ำ
           ข้อนี้อาจทำยากสักนิด แต่ถ้าคุณหาจังหวะแวบได้ ให้ลงว่ายน้ำสักประมาณ 15-20 นาที อย่างไม่ต้องหักโหมอะไรนัก จะช่วยให้คุณสดใสเปล่งปลั่งขึ้นอย่างประหลาด ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นเพราะน้ำในสระว่ายน้ำจะช่วยพยุงตัวไม่ให้คุณรู้สึก ใช้กำลังมากเหมือนออกกำลังกายในยิม และความเย็นฉ่ำของน้ำจะทำให้รู้สึกสดชื่นกระฉับกระเฉงขึ้น แต่ถ้าหาเวลาไม่ได้จริงๆ อาจจะเลือกอาบน้ำฝักบัวแทนก็ได้ แต่ผลของการลงแหวกว่ายกลางสายธาราจะดีกว่ามาก
           5. กล้วยช่วยได้
           อย่ามองข้ามผลไม้พื้นบ้านธรรมดาๆ อย่างกล้วยไปได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกล้วยหอมอร่อยเลิศเลยด้วยซ้ำ จะเป็นกล้วยพันธุ์ไหนก็ได้สักหนึ่งลูก จะช่วยคุณเรียกพลังกลับมาได้ในเวลาอันสั้น เพราะในกล้วยอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้ง A,B,C และ E รวม ทั้งเหล็กแป้ง น้ำตาลธรรมชาติ นอกจากนี้ยยังมีโปแตสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำและความชุ่มชื้นของเซลล์ผิวหนังกับเนื้อเยื่อ ต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย
           6. นวดตัวพร้อมกลิ่นหอมบำบัดอารมณ์
           อาจจะปลีกเวลาไปนวดตัวช่วงสั้นๆ โดยเลือกการนวดน้ำมันอโรมาที่กลิ่นหอมของน้ำมันจากธรรมชาติจะช่วยให้คุณ รู้สึกผ่อนคลาย และเรียกความสดใสกลับคืนมาได้ แต่หากหาเวลานวดไม่ได้จริงๆ อาจจะใช้วิธีจุดเตาขนาดเล็กในห้องที่ให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้แทน ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
           7. น้ำผลไม้สด
           วิตามินซีในน้ำผลไม้ ซึ่งมีในปริมาณสูงอยู่แล้วโดยธรรมชาติจะช่วยเสริมสร้างพลังงานได้ในทันที ทันควัน เพราะน้ำตาลจากรสหวานของผลไม้ ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้เป็นพลังงานได้เลย โดยไม่ต้องย่อยหรือแปรสภาพเหมือนกับน้ำตาลที่ได้จากแหล่งอื่น นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนูมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่และริ้วรอยต่างๆ ได้ดีอีกด้วย ควรพยายามดื่มน้ำผลไม้อย่างน้อยวันละหนึ่งแก้วเป็นประจำหรือจะเป็นน้ำขิง ร้อนๆ ก็จะช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่าอย่างเห็นผลทันทีเช่นกัน
           8. ถั่วและผลไม้อบแห้ง
            นี่ก็เช่นกันที่ไม่ควรมองข้ามเพราะทั้งถั่วและผลไม้อบแห้งทั้งหลายมี ประโยชน์มากกว่าขนมขบเคี้ยวจำไว้แป้งนัก เนื่องจากอุดมด้วยธาตุเหล็ก ช่วยเสริมสร้างพลังงานและทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายคล่องตัว ขึ้น เป็นผลให้ผิวพรรณของคุณดูสดชื่นเปล่งปลั่งกว่าที่เคยเป็น บางคนถึงกับเชื่อว่า การกินอาหารจำพวกถั่วมากๆ จะช่วยลดขนาดของไฝ ขี้แมลงวัน หรือตุ่มเล็กตุ่มน้อยตามผิวหนังด้วยซ้ำไป แต่ในสายตาของแพทย์แล้ว ไม่ควรเลือกกินอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งซ้ำกันนานๆ หรือในปริมาณที่มากเกินปกติ เพราะการกินที่ถูกต้องคือต้องให้คละหมู่หลากหลายประเภทอาหารเข้าไว้
            9. ชื่นใจกับดอกไม้สวย
           วิธีนี้ง่ายสุด เพียงแค่เดินหาซื้อหรือสั่งดอกไม้สวยๆหอมๆ สักช่อมาให้รางวัลกับตัวเอง โดยไม่ต้องรอโอกาสพิเศษที่ไหนหรือจากใครทั้งนั้น คุณก็จะได้รับความสดชื่น และรู้สึกเปี่ยมพลังขึ้นในทันทีที่สัมผัสกลิ่นหอม และได้ชื่นชมความงามของดอกไม้ช่อสวยหรือถ้าไม่ต้องการการสิ้นเปลืองจะเลือก เดินชมต้นไม้ดอกไม้ตามสวนสาธารณะะที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ อย่างเช่น สวนเบญจสิริ ย่านสุขุมวิท ก็ได้เช่นกัน หรือไม่ก็อาจจะซื้อต้นไม้กระถางเล็ก ๆ วางประดับบนโต๊ะทำงานสีเขียวอันสดชื่นของมันช่วยสร้างพลังให้กับคุณได้ในทุก ครั้งที่มองเห็น 
           10.จิบชาสมุนไพร
           การได้จิบเครื่องดื่มร้อนๆ รสชาติถูกใจ เช่น ชาสมุนไพร จะช่วยผ่อนคลายและเรียกพลังกลับคืนมาให้คุณได้ นอกจากนี้ชาบางชนิด เช่น ชากลิ่นสะระแหน่ ยังช่วยคลายเครียดและขับลมในกระเพาะอีกด้วย ซึ่งหากไม่ต้องการจิบชา อาจจะแค่หาใบสะระแหน่มาขยี้สูดดมกลิ่นของมันก็ช่วยคลายเครียดได้เช่นกัน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสร้างลุคใหม่ ที่ทั้งสดใสและมีสุขภาพดี พร้อมที่จะออกไปเริงร่ารับลมร้อนโดยไม่ต้องอายใคร


 เครดิต bewtychic