วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เทคนิคดีๆ ดูแลผิวให้เนียนสวย

เทคนิคดีๆ ดูแลผิวให้เนียนสวย

        สาวๆอย่างเราๆไหนจะต้องคอยดูแลภาพลักษณ์ให้ดูดีเสมอแล้ว งานที่ทำก็ต้องไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เพราะฉะนั้นจะมีเทคนิคอะไรดีๆ ในการเสริมความดูดีให้กับตัวเองให้เร็ว และง่ายที่สุด มาดูกันดีกว่าว่า สาวๆจะมีเทคนิคอะไรบ้างในการดูแลผิวหน้า ทรงผม เรือนร่าง และเล็บแบบรวดเร็วทันใจ

ล้างหน้า

 ผิวหน้า
**ถึงแม้คุณจะมีเวลาน้อยนิดเพียงใด**สิ่ง ที่ไม่ควรละเลยหรือข้ามขั้นตอนเลยคือ การทำความสะอาดใบหน้าอย่างหมดจดเสมอ โดยเฉพาะก่อนเข้านอน เพื่อป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตัน ซึ่งอาจนำไปสู่การเป้นสิวได้ เคล็ดลับสำคัญที่ช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดใบหน้าก็คือ การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม  ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรอบดวงตา สามารถช่วยคุณกำจัดคราบเครื่องสำอางและความสกปรกได้ภายในพริบตา เพียงแค่เทมันลงบนก้อนสำลี วางทับลงบนดวงตา รอซัก 5 วินาทีก่อนเช็ดออกทางด้านข้าง ถ้าคุณใช้มาสคาร่าหรืออายไลเนอร์ให้เช็ดซ้ำอีกครั้ง โดยหมุนก้อนสำลีเป็นวงกลมแล้วเช็ดลงด้านล่าง จากนั้นใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางเช็ดให้ทั่วใบหน้า ผิวคุรก้จะสะอาดพอสมควรแล้วในระดับหนึ่ง แต่หากคุณต้องการล้างหน้าด้วยนำ้สะอาดอีกครั้งก็ไม่ว่ากัน

**ถ้าคุณทำความสะอาดผิวหน้าอย่างดีแล้ว**
การ ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดในตอนเช้าก็เพียงพอแล้ว แต่ที่ลืมไม่ได้ก็คือ การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและการปกป้องแสงแดด คุณสามารถเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ผสมสารป้องกันแดดเพื่อการประหยัดเวลา และสามารถเติมรองพื้นลงไปเล็กน้อยในมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ผิวหน้าเรียบเนียนได้ในขั้นตอนเดียว หรือเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์แบบเจือสีก็ได้เช่นกัน

**เพื่อแก้ปัญหาตาบวมอย่างทันใจ**
ลอง ใช้ถุงชาที่ชงแล้วแช่เย็นโปะลงบนตาเป้นเวลา 10-20 นาที มันจะช่วยบรรเทาอาการตาบวม และทำให้ตาระคายเคือง หรือแตงกวาฝานแช่เย็น มันฝรั่งดิบฝาน(เอาไปแช่น้ำก่อนแช่เย็น) หรือช้อนแช่เย็น ก็จะได้ผลแบบเดียวกัน



 เส้นผม

**ถ้าคุณไม่มีเวลาสระผม**
และ อยากขจัดความมันเยิ้มของเส้นผมออก คุรคงเคยได้ยินคำแนะนำที่ว่าให้ใช้แป้งเด็กโรยที่โคนผมเพื่อดูดซับความมัน แต่การใช้แป้งเด็กมากเกินไป อาจทำให้ผมของคุณกลายเป็นสีเทาได้ ลองเปลี่ยนมาใช้แป้งฝุ่นแบบไร้สีแทน โรยเฉพาะที่โคนผม และอย่าใช้มากเกินไป จากนั้นแปรงออกเบาๆ อย่าแปรงแรงนัก เพราะมันมีแต่จะกระตุ้นรากผมให้ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น

**ถ้าไม่มีเวลาในการเป่าไดร์ผมทั้งศีรษะ**ลองไดร์ผมเฉพาะรอบๆใบหน้าและบริเวณแสกผม ซึ่งเป็นส่วนที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด

**เติมความพองสวยให้เส้นผมภายในพริบตา**

ด้วยการก้มตัวลง ฉีดสเปรย์ที่โคนผมแล้วแปรงผมเบาๆ จากนั้นเงยหน้าขึ้น เส้นผมจะพองตัวสวยในทันที

**การเตรียมพร้อมช่วยลดเวลาแต่งผมของคุณในตอนเช้า**
โดย หลังจากสระผมเสร็จแล้วเป่าไดร์จนผมเกือบแห้ง ใส่ผลิตภัณฑ์แต่งผมเล็กน้อยตามต้องการ แ้วใช้ดรลขนาดใหญ่ม้วนผมหรือมัดผมเปนเกลียว แล้วเข้านอนทั้งอย่างนั้น พอตอนเช้าหลังแกะโรลม้วนผมออก ใช้แปรงกลมขนาดใหญ่เป่าไดร์ผมอีกเล็กน้อย คุรจะได้ผมที่เรียบตรงและมีวอรุ่มสวยงาม สำหรับผมหยิกเมื่อแกะผมที่มัดเกลียวเอาไว้ ให้ใช้นิ้วมือสางเล็กน้อย คุณก็จะได้ลอนผมนุ่มสลวยทันที



 เรือนร่าง

เริ่ม ต้นวันใหม่ด้วยเครื่องดิ่มขับสารพิษ ต้มน้ำและเติมน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก และดื่มตอนที่ยังร้อน เครื่องดื่มร้อนนี้จะช่วยทำความสะอาดระบบร่างกาย ถ้าผิวของคุณต้องการความชุ่มชื้นเพิ่มเป็นพิเศษ และมอยเจอร์ไรเซอร์ตามปกติใช้เวลานานกว่าจะซึมซับเข้าไป ลองชโลมคอนดิชั่นเนอร์ใส่ผมลงบนผิวในระหว่างอาบน้ำแล้วนวดให้มันซึมเข้าผิว ล้างออกให้สะอาด อย่าใช้น้ำร้อนจัด เพราะจะทำลายผิว ใช้น้ำอุ่นๆ แล้วสุดท้ายราดด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดรูขุมขน


 มือและเล็บ
**รู้หรือไม่ว่าลิปบาล์มสามารถใช้เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่หนังข้างเล็บได้**ลองใช้ลิปบาล์มธรรมชาติที่มีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์และวิตามินอีจะได้ผลดีที่สุด

**ถ้าคุณอยากทำเล็บสไตล์ French-Manicure แต่มีเวลาไม่มากนัก**ลองใช้ดินสอสีไฮไลต์สีขาวเขียนที่ด้านล่างของปลายเล็บ แล้วทาด้านบนเล็บด้วยยาทาเล็บสีใส คุณก็ได้เล็บแบบ French-Manicure แล้ว

ข้อมูลจากนิตยสารลิซ่า
www.lisathailand.com
 link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี , ทริคส์ง่ายๆ เพื่อตาใสปิ๊งเป็นประกาย , pupylovekoreshop
เครดิต siegsa
 

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

siegsa: วิธีรักษาปากแห้งแตกเป็นขุย

siegsa: วิธีรักษาปากแห้งแตกเป็นขุย: วิธีรักษาปากแห้งแตกเป็นขุย            วิธีรักษาสิ่งที่ดีสุด คือ ควรดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ หรือจิบน้ำอุ่น ๆ บ่อย ๆ หาก ปากแห้งมากจน...

วิธีรักษาปากแห้งแตกเป็นขุย

วิธีรักษาปากแห้งแตกเป็นขุย

ปาก ริมฝีปาก

          วิธีรักษาสิ่งที่ดีสุด คือ ควรดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ หรือจิบน้ำอุ่น ๆ บ่อย ๆ หาก ปากแห้งมากจนลอกเป็นขุย ให้ใช้น้ำอุ่น ผสมเกลือป่นเล็กน้อย แล้วใช้สำลีหรือทิชชูชุบน้ำอุ่นผสมเกลือป่นให้เปียกพอหมาด ๆ แล้วใช้ปากคาบทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที หรือเช็ดเบา ๆ ไปบนริมฝีปาก ก็จะช่วยให้ขุยต่าง ๆ หลุดลอกออกไปได้ และหมั่นทาลิปมันที่มีส่วนผสมของสารบำรุง หรือถ้าปากแห้งมากแนะนำให้ใช้ปิโตเลี่ยมเจล (มีลักษณะเป็นเจลใสคล้ายขี้ผึ้ง) ทาบนริมฝีปากได้บ่อยครั้งตามต้องการ

รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าใครปากแห้งแตกเป็นขุย ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้.

ที่มา :
http://www.healthcorners.com/


link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี , อาวุธเสริมความงามยาม หน้าร้อน  
เครดิต siegsa

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

7 เคล็ดลับความงาม ยามอากาศร้อนๆ

7 เคล็ดลับความงาม ยามอากาศร้อนๆ
 แต่งหน้า

หน้า ร้อนอาจให้ความรู้สึกที่คึกคักสดใส แต่ความร้อนจนแทบละลาย ก็ทำให้ใบหน้าสวยๆ ของคุณมันเยิ้ม และเครื่องสำอางเลอะเลือนได้ง่าย ด้วยความร้อนและความชื้นเป็นสาเหตุสำคัญ เราจึงได้สรรหาเคล็ดลับในการแต่งเติมความงามที่จะทำให้คุณดูสดใสและสวยงาม ได้ยาวนาน ถึงแม้อากาศจะไม่เป็นใจก็ตามที งั้นเรามีเคล็ดลับความงามที่เอาชนะอากาศร้อนได้ดีที่สุดสำหรับทุกคนมาฝากกัน ค่ะ

         1. ถึงเวลาใช้ไฟรเมอร์ คุณจะไม่เสียใจเลยกับเวลาสองสามวินาทีที่ใช้ไปกับการทาไพรเมอร์ ซึ่งใช้หลังจากมอยส์เจอไรเซอร์และก่อนเครื่องสำอาง ไพรเมอร์เป็นชั้นของเมกอัพที่ไม่ให้ความรู้สึกหนาหนัก แต่จะช่วยทำให้เมกอัพติดทนานานขึ้น

         2. ให้เมกอัพบางเบาลง เช่นเดียวกับที่เรามักจะเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าเนื้อบางเบา คุณก็ควรแต่งหน้าด้วยเมกอัพที่เบาลงเช่นกัน โดยเปลี่ยนจากรองพื้นมาเป็นมอยส์เจอไรเซอร์แบบเจือสี (Tinted Moisturzer) สูตร บางเบาของมันจะทำให้ผิวรู้สึกโปร่งสบาย และไม่ไหลเยิ้มในช่วงอากาศร้อน แต่ถ้ารู้สึกว่าปกปิดไม่ค่อยดีนัก ลองใช้รองพื้นแบบครีมหรือแบบแท่งทาทับในบริเวณที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ รองพื้นจะมีเนื้อบางเบากว่าคอนซีลเลอร์จึงไม่ไหลเยิ้มได้ง่าย จากนั้น ปัดแป้งฝุ่นแบบโปร่งแสงทับ เพื่อเซ็ตรองพื้นให้อยู่ตัว

         3. เลือกสีสดใส คุณมักใส่เสื้อสีสดใสหรือหิ้วกระเป๋าสีสดๆ ในหน้าร้อน และตอนนี้ก็เป็นห้วงเวลาที่เหมาะแก่การเล่นกับสีเมกอัพของคุณเช่นกัน สีสันสดๆ จะทำให้ใบหน้าของคุณดูสดชื่น และทำให้ผิวดูผุดผ่องและอ่อนเยาว์ ถ้าคุณมักจะแต่งหน้าด้วยสีกลางๆ ลองทดลองกับสีสดใสแค่หนึ่งสี และพวงแก้มสีสุกปลั่งเป็นบริเวณที่เหมาะแก่การทดลองอย่างมาก

         4. หยุดความมัน บริเวณทีโซนที่เป็นมันเยิ้มไม่เซ็กซี่แม้แต่นิดเดียว เพื่อกำจัดความมันวาว ซึ่งไม่น่ามองในไม่กี่วินาที ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่ากระดาษซับมัน เพราะมันราคาถูก ใช้ง่าย และได้ผลดี ถ้าคุณอยากเติมเมกอัพของคุณสักหน่อย ก็ซับความมันวาวก่อน แล้วปัดแป้งฝุ่นที่มีประกายแวววาวเล็กน้อย มันจะทำให้หน้าคุณดูไม่มันเยิ้ม และยังคงความเปล่งปลั่งอยู่

         5. เปลี่ยนลิปสติก เนื่องจากลิปสติกสีเข้มๆ ให้ความรู้สึกร้อนเกินไป เมื่อเวลาที่อากาศอ่นขึ้น ลองเปลี่ยนมาใช้ลิปบาล์มแบบเจือสีหรือลิปสติกแบบเนื้อบางเบา และเลือกแบบที่มีสารกันแดดเพื่อการปกป้องที่เพิ่มขึ้น

         6. อายแชโดว์ติดทนนาน หลีกเลี่ยงอายแชโดว์แบบครีมและใช้อายไพรเมอร์แทน มันจะลดการเกิดคราบ และติดทนนาน หรือทาอายแชโดว์แบบฝุ่นทับแบบครีมเพื่อให้มันติดทนขึ้น และไม่เป็นคราบ อย่าลืมดูอายไลเนอร์ไม่ให้ไหลเลอะเทอะ ด้วยการเขียนอายไลเนอร์ตามปกติ แล้วใช้แปรงปลายตัด ทาอายแชโดว์สีเข้มทับลงไปบนเส้นนั้น อายไลเนอร์จะติดทนนานขึ้น

         7. ใช้เครื่องสำอางกันน้ำ ถ้าคุณเคยใช้มาสคาร่าแบบกันน้ำมาก่อน และไม่ค่อยชอบเท่าที่ควร ลองใช้มันอีกสักครั้ง เพราะเดี๋ยวนี้มาสคาร่าแบบกันน้ำสูตรใหม่จะดีกว่าเดิม แต่ถ้าไม่อยากเปลี่ยนจากมาสคาร่าเดิมที่คุณชอบ ลองทาแบบกันน้ำเฉพาะที่ปลายขนตาทับลงไปบนมาสคาร่าปกติที่คุณใช้ เพื่อให้มันติดทนนานขึ้น

ขอบคุณที่มาจาก นิตยสาร Lisa

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี , นวดหน้าอก ด้วยตัวเอง
เครดิต siegsa 

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แต่งหน้า สำหรับสาวผิวสองสี

     แต่งหน้า สำหรับสาวผิวสองสี

 แต่งหน้า

     สิ่งสำคัญในการที่จะเลือกใช้สีสันของเมคอัพให้เข้ากับสีผิวของตัวเองได้ อย่างถูกต้องนั้น ก่อนอื่นต้องเข้าใจ ก่อนว่าโทนของสีผิวแบ่งออกเป็นทั้งโทนร้อนและโทนเย็น

      โทนร้อน คือ ผิวที่มีส่วนผสมของสีเหลือง สีส้ม สีน้ำตาล หรือสีแทน สาวไทยส่วนมากจะมีสีผิวอยู่ในโทนนี้

     สำหรับโทนเย็น คือ กลุ่มของผู้หญิงที่ มีสีผิวค่อนข้างดำคล้ำ คือสีผิวมีส่วนผสมของสีน้ำเงินอยู่ ค่อนข้างมาก หรือหมายถึงสีผิวของผู้ที่ผิวมีสีออกไปทางขาวจัด พื้นสีผิวจะแฝงไว้ด้วยสีเทา สีฟ้า สีน้ำเงิน


    เมื่อวิเคราะห์สีผิวของตัวเองได้แล้วเราจะสามารถเลือกสีของรองพื้น สีแป้ง สีบลัชออน และสีลิปสติกได้ เหมาะสมกับสภาพสีผิวตัวเอง

     รองพื้น ควรเลือกให้ใกล้เคียงกับสีผิวหน้ามากที่สุด โดยทดสอบก่อนที่บริเวณกรามทั้งสองข้าง ถ้าเกลี่ยแล้ว เนียนกลืนเข้ากับสีผิวแสดงว่าเลือกได้ถูกต้อง

     แป้งฝุ่น เลือกตามโทนของสีผิวหรือเลือกตามสีของรองพื้น ซึ่งแป้งฝุ่นมีทั้งโทนเหลือง ส้ม ชมพู แทน

     อายแชโดว์ นอกจากเลือกตามสีของผิวแล้ว ควรเลือกให้เข้ากับบุคลิก สีเสื้อผ้า กาลเทศะ รวมทั้งอารมณ์ของ คุณด้วย ขอแนะนำให้ใช้สีน้ำตาลเป็นหลัก ส่วนจะมีสีอื่นผสมลงไปโดยเน้นสีหนักไปด้านได้ ควรดูตามโทนของสีผิว เช่น ผิวโทนร้อนใช้สีน้ำตาล ทองแดง ทอง เบจ งาช้าง ผิวโทนเย็นใช้สีปนเทา ม่วง หรือสีฟ้า

     บลัชออน สาวผิวสองสีควรเลือกบลัชออนสีออกส้ม น้ำตาล สาวผิวคล้ำจัดควรเลือกสีชมพู แดงแอปเปิ้ล น้ำตาล

     มาสคาร่า ควรเลือกชนิดกันน้ำได้ สำหรับผู้หญิงไทยควรเลือกมาสคาร่าสีดำ น้ำตาลเป็นหลัก หากต้องการเพิ่ม สีสันให้กับตัวเอง สาวผิวสองสีควรเลือกโทนสีน้ำตาล เขียว และสีฟ้า ส่วนสาวผิวคล้ำควรเลือกสีดำ เนวีบลู ม่วง และน้ำเงิน

     ลิปสติก สาวผิวสองสีหรือสีโทนร้อนควรใช้ลิปสติกสีออกน้ำตาล ใช้วิธีการไล่ระดับสีได้โดยผสมสีอื่นลงไปได้ เช่น สีแดง ชมพู และส้ม สาวผิวคล้ำหรือสีโทนเย็น ควรใช้ลิปสติกสีออกชมพูโดยไล่ระดับสีได้ด้วยการผสมสีอื่นลงไป เช่น สีแดง ส้ม ม่วง
 


ที่มาจาก นิตยสาร Lisa 

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี ,วิธี กรีด อายไลเนอร์ 
เครดิต siegsa

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

siegsa: กันคิ้วสวย เพิ่มจุดเด่นบนใบหน้า

siegsa: กันคิ้วสวย เพิ่มจุดเด่นบนใบหน้า: กันคิ้วสวย เพิ่มจุดเด่นบนใบหน้า       คิ้ว ช่วยให้ใบหน้าสวยโดดเด่นได้ไม่แพ้จุดอื่นบนใบหน้า แต่ทว่าการมีคิ้วที่เป็นเส้นสวยนั้น สาวๆ อาจกำ...

กันคิ้วสวย เพิ่มจุดเด่นบนใบหน้า

กันคิ้วสวย เพิ่มจุดเด่นบนใบหน้า


      คิ้ว ช่วยให้ใบหน้าสวยโดดเด่นได้ไม่แพ้จุดอื่นบนใบหน้า แต่ทว่าการมีคิ้วที่เป็นเส้นสวยนั้น สาวๆ อาจกำลังหาวิธีกันอยู่

     สาวๆ หลายคนมีดวงตา สวยซึ้งแต่กลับปล่อยให้ขนคิ้วรกรุงรังมาบดบังความงามไว้ ขณะที่บางคนผจญกับปัญหาหน้าโล้นเพราะขนคิ้วบางจัด แต่หากคุณได้อ่านเทคนิคการแต่งคิ้วง่ายๆ จาก ริค ดิเกกกา Estee Lauder Global Premier Make up Artist ที่ How To นำมาฝากในบรรทัดถัดจากนี้ไป รับรองว่าคุณจะมีคิ้วสวย ครบสูตร แน่นอน (คอนเฟิร์ม) 




    คิ้ววัดหาเส้นคิ้วที่เหมาะสม

      สำหรับการแต่งคิ้วนั้น สิ่งสำคัญอันดับแรกเริ่มจากการวัดหาเส้นคิ้วที่เหมาะสม ซึ่งคิ้วที่ได้รูปสวยนั้นหัวคิ้วควรจะตรงกับแนวหัวตาแล้วจึงเป็นแนวโค้งขึ้น โดยจุดสูงสุดของคิ้วที่โค้งขึ้นจะอยู่ตรงกับแนวของขอบตาดำด้านนอก ส่วนหางคิ้วจะไปสิ้นสุดตรงแนวเส้นที่ลากจากปีกจมูกผ่านหางตาออกไป และจะต้องไม่อยู่ต่ำกว่าหัวคิ้ว 

      TIPS
        สาวใบหน้ากว้าง มักจะมีเครื่องหน้าที่ค่อนข้างใหญ่ จึงควรปรับหัวคิ้วให้รับกับสันจมูกโดยไม่ควรให้รูปคิ้วหนามากและตรงมากเกิน ไป เพราะจะทำให้เส้นคิ้วยิ่งดูสั้นลง

        สาวใบหน้ายาว ต้องแต่งรูปคิ้วให้ค่อนข้างหนาและไม่โค้งจนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูยาวมากขึ้น


     กันคิ้วให้ได้รูป
    สำหรับสาวไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเบ้าตาแต่มักจะมีพื้นที่คิ้วเป็นปื้น ยิ่งขนคิ้วลามรกลงมาก็จะยิ่งทำให้พื้นที่บริเวณนี้แคบลงไปอีก แต่ถ้าได้กันคิ้วแล้วจะทำให้กระบอกตาดูกว้างขึ้นและใบหน้าดูสว่างสดใสยิ่ง กว่าเดิม โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

   
– ก่อนกันคิ้วให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นแตะเบาๆ เพื่อให้ขนคิ้วเกิดความชุ่มชื้น อ่อนตัว และเจ็บน้อยลง

    – ควรนั่งตัวตรงมองเข้าหากระจกในระดับสายตา

    – ใช้นิ้วแตะคิ้วดึงขึ้นในแนวดิ่งเพื่อให้เนื้อบริเวณคิ้วตึง อ้าปากเพื่อให้โหนกแก้มลดระดับต่ำลงเล็กน้อย

    – ใช้มีดโกนที่มีความคมและด้ามจับถนัดมือกันย้อนแนวเส้นขน คือจากหางคิ้วเข้ามาทางหัวคิ้ว เพราะหากกันตามแนวเส้นขนอาจจะหลงเหลือส่วนตอของเส้นขนคิ้วให้มองเห็นได้ โดยค่อยๆ กันทีละน้อยหรือทีละเส้นจนคิ้วสวยงามได้รูป

    – หากไม่แน่ใจแนวสวย ก่อนลงมืออาจใช้ดินสอเขียนคิ้ววาดเส้นโค้งเป็นแนวคิ้วที่ได้รูปสวยงามไว้ ก่อน แล้วค่อยใช้มีดโกนกันเส้นขนคิ้วที่เกินแนวดินสอนั้นออกไป



     เขียนคิ้วอย่างมีเทคนิค

    
- หลีกเลี่ยงการเขียนคิ้วตั้งแต่หัวคิ้ว เพราะจะทำให้คิ้วดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติคล้ายกับการเขียนคิ้วถาวร โดยเริ่มจากการเขียนด้วยดินสอเบาๆ บนเส้นคิ้วห่างจากหัวคิ้วประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วไล้ไปตามเส้นขนคิ้ว ระวังอย่ากดดินสอจนถึงผิวหนัง จากนั้นใช้แปรงเขียนคิ้วเกลี่ยตามแนวเดิม

    – ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเกลี่ยทับอีกครั้งเพื่อให้เส้นขนดูนุ่มนวลขึ้น และฝุ่นของอายแชโดว์จะช่วยทำให้หางคิ้วไม่หายไปในระหว่างวัน

    – ใช้แปรงเขียนคิ้วเท่าที่มีสีติดอยู่ ไม่ต้องจุ่มสีใหม่ เกลี่ยย้อนมาทางหัวคิ้วให้เบลอหายมาทางสันจมูก

    – วัดความยาวของหางคิ้ว โดยใช้พู่กันทาบจากปลายจมูกมาทางหางตา วาดหางคิ้วมาจบตรงนั้นจะเป็นสัดส่วนคิ้วที่สวยงาม



     สีคิ้วเนียนเป็นธรรมชาติ
     หากสาวๆ คนไหนอยากให้หน้าดูเด็กลงมีเทคนิคง่ายๆ โดยเลือกใช้อายโบรว์สีอ่อน ส่วนสีคิ้วเข้มจะทำให้ใบหน้าแลดูสุขภาพดี สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือการใช้ดินสอเขียนคิ้วสีดำเพราะจะทำให้หน้าดุและดู สูงอายุแถมบางครั้งยังดูหลอกตาด้วย

     อย่างไรก็ดี การเลือกสีคิ้วให้คำนึงถึงสีผมด้วย สีที่ธรรมชาติที่สุดคือการดึงสีผมในส่วนที่เข้มที่สุดมาใช้เป็นสีคิ้ว เช่น ผมสีน้ำตาลเข้มไฮไลต์สีบลอนด์ให้จับสีน้ำตาลเข้มมาปรับเป็นสีคิ้วได้ แต่ต้องดูความเหมาะสมกับคิ้วเดิมด้วย เพื่อไม่ให้ขัดกับความเคยชิน
    TIPS

       สีคิ้วที่สวยเสมอสำหรับคนไทยคือสีน้ำตาล เพราะเป็นสีที่ทำให้ดูสดใสและใบหน้าอ่อนเยาว์เสมอ แนะนำให้ใช้มาสคาราสีน้ำตาลปัดขนคิ้ว เพราะนอกจากจะได้สีสวยแล้วยังเป็นการจัดทรงคิ้วไปในตัวด้วย

       เทคนิคการปรับสีคิ้วทำได้ 2 วิธี คือ เขียนลงไปบนผิวหนังใต้คิ้วเหมาะกับการทำให้สีคิ้วเข้มขึ้นหรือการเติมคิ้ว ให้เต็ม แต่หากต้องการลดความเข้มของคิ้วให้ใช้อายโบรว์สีน้ำตาลอ่อนแทน

 

     เลือกผลิตภัณฑ์แต่งคิ้ว

     – แบบดินสอ จะเขียนถนัดมือ ปลายที่แหลมทำให้เขียนหางคิ้วได้คมชัด เหมาะสำหรับสาวคิ้วบาง

     – แบบเนื้อฝุ่น จะช่วยเติมคิ้วให้ดูเป็นธรรมชาติและดกหนาขึ้น แถมยังช่วยเติมช่องว่างระหว่างคิ้วได้ด้วย

     – แบบเนื้อเจล จะช่วยให้ขนคิ้วเรียงตัวสวยได้ตลอดวัน


        รู้เทคนิคดีๆแบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมไปลองหัดเขียนคิ้ว แต่งคิ้วกันนะคะ สาวๆ


ที่มาจาก โพสต์ทูเดย์ 

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี ,วิธีแก้กลิ่นเต่าแรง

เครดิต siegsa

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

siegsa: มหัศจรรย์แห่งเพชร เคล็ดลับที่ “เป็นมากกว่าจินตนากา...

siegsa: มหัศจรรย์แห่งเพชร เคล็ดลับที่ “เป็นมากกว่าจินตนากา...: ม หัศจรรย์แห่งเพชร เคล็ดลับที่ “เป็นมากกว่าจินตนาการ” ด้วยคุณค่าการผลิตโดยน้ำแร่บริสุทธิ์จากใต้พื้นดินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และ...

มหัศจรรย์แห่งเพชร เคล็ดลับที่ “เป็นมากกว่าจินตนาการ”



หัศจรรย์แห่งเพชร เคล็ดลับที่ “เป็นมากกว่าจินตนาการ”

ด้วยคุณค่าการผลิตโดยน้ำแร่บริสุทธิ์จากใต้พื้นดินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
และ มหัศจรรย์แห่งเพชรแท้ จากผงเพชรบริสุทธิ์ มากกว่า 0.25กะรัต 
ผสมผสานส่วนประกอบอื่นๆที่สังเคราะห์โดยกรรมวิธีธรรมชาติ
จนได้เป็นพิลลิงที่ใช้ได้แม้ผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง

ได้รับการตรวจสอบ และรองรับจาก
KFDA คณะกรรมการ อาหาร และ ยา ของประเทศเกาหลีใต้
รวมทั้งได้รับใบอนุญาต ด้านความปลอดภัย จากฝ่ายตรวจสอบผลิตภัณฑ์ความงามของเกาหลีใต้อย่างครบถ้วน
เป็นที่เรียบร้อย รับประกันความน่าเชื่อถือ และวางใจได้ โดยหน่วยงานมีชื่อ และ สัญลักษณ์ของความงามแห่งเกาหลี
ถูกต้องตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคแน่นอน 100%

“นับเป็นพันปีของการบ่มตัวใต้พื้นหิน
! จนเป็นคริสตัลที่งดงามจับตา”
100% ผงเพชรแท้ จากเพชรที่ใช้ทำ "เครื่องประดับ Jewelry "
 ไม่ใช่ผงกากเพชรหยาบที่ใช้กับเครื่องจักร หรือ ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป
จึงมั่นใจได้ว่าเนื้อผงเพชร 100%นี้จะมีเนื้อที่ เนียนละเอียด และ ไม่บาด ระคายเคือง
“ยับยั้งริ้วรอย และ เสริมสร้างความกระจ่างใส ขาวเนียนให้ผิว  ได้ถึง 2ขั้น ในหนึ่งเดียว”

 หลังทดลองใช้เพียงครั้งแรก ผลลัพธ์ที่ได้คือ....
  • ผิวสะอาด สดชื่น เต่งตึง กระชับ และเนียนนุ่ม
  • ผิวกระจ่าง สว่างขึ้น ร่องรอยความหมองคล้ำลดเลือนไปอย่างเห็นได้ชัด
  • ปัญหารูขุมขนสกปรก รูขุมขนกว้าง และร่องลึกของผิวลดลง
  • ปัญหาสิว และ สิ่งสกปรกอุดตัน ปัญหาริ้วรอยก่อนวัย ชะลอตัวลง
  • 90% ของผู้หญิงที่มีการแต่งหน้า ใช้เครื่องสำอาง ยืนยันว่า การใช้รองพื้น และแป้งแต่งหน้า
    เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • เพียงแค่ขั้นตอนเดียว ได้ทั้ง “พิลลิง”สิ่งสกปรก และ “สครับ” ผิวให้กระจ่างใสในเวลาเดียวกัน

"จากนี้ ความกังวลถึงผลข้างเคียงของการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจะหมดไป" 
เพราะ
….
ส่วนประกอบหลักได้จากธรรมชาติ
- ผงเพชรแท้ 0.25 กะรัต
- เมือกวุ้นของว่านหางจรเข้
- น้ำสะกัดจากดอก Hollyhock

Skin Turnover วงจรของผิวของคุณจะถูกปรับให้เกิดความสมดุลขึ้น
โดยปกติ “เคราติน” ของผิวนั้นจะ ถูกผลัดเปลี่ยนทุกๆ
28วัน
เซลล์ผิวเก่า จะถูกสร้างแทนที่ด้วยเซลล์ผิวเกิดใหม่ต่อเมื่อมีการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป
แต่ระยะเวลาที่รอนั่นล่ะ? นานถึง
28 วัน??
เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะถูกปล่อยทิ้งไว้ทับถมบนใบหน้า
ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องผิวพรรณต่างๆ นานา อาทิ เช่น สิว ริ้วรอย และ ความหมองคล้ำต่อเนื่อง
!!
 
“ให้
DIAMOND PEELING ได้ดูแลผิวของคุณ
กระชับเวลาให้ได้เผยผิวใส รวดเร็ว ทันใจ และ ปลอดภัยกว่า”

ชื่อสินค้า : DIAMOND PEELING 0.25 Carat (ปริมาตร 170g.) / น้ำหนักสุทธิ 230g.
ผลิตโดย : by Hollywood Avenue / MAX Palm (Made in KOREA)
ส่วนผสมหลัก : 100% Diamond Powder 0.25 Carat , Pure ALOE VARA Gel ,Pure Hollyhock Flower’s water.
ราคาจำหน่ายตามท้องตลาดที่ประเทศเกาหลี
25,000 KRW
ราคาจำหน่ายตามท้องตลาดที่ประเทศไทย 550THB

วิธีใช้ :
 ใช้หลังล้างทำความสะอาดผิวหน้า สัปดาห์ละ 2-3ครั้ง ดังนี้
1. หลังล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ ซับหน้าให้พอหมาด
2.บีบเจลพิลลิ่ง ลงบนอุ้งมือพอประมาณ ใช้ปลายนิ้วนวด วนเนื้อเจลเบาๆ เพื่อให้เจล และ เกล็ดเพชรแตกตัวออก
3.จากนั้นทาเนื้อเจลที่วอมได้ที่แล้วลงให้ทั่วบริเวณใบหน้า และ ลำคอ (เว้นเปลือกตา และ ริมฝีปาก)
4.นวดเบาๆให้ทั่วใบหน้า และ ทิ้งไว้ 1-2นาที (หรือ เมื่อเจลเริ่มแห้ง และ รู้สึกใบหน้าตึง)
5.ใช้ปลายนิ้วแตะน้ำ และ นวดเบาๆอีกครั้งเพื่อดึงเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกมา ผลที่ได้คือ คราบไคล และ สิ่งสกปรกตกค้างที่ถูกดึงหลุดออกมาพร้อมกับเนื้อพิลลิงซึ่งดักจับเอาความสกปรก และ เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ให้ลอกติดออกมาอย่างอ่อนโยน
6.นวดจนทั่วใบหน้า 1-2 นาที และ ล้างออกด้วยน้ำสะอาด(ไม่จำเป็นต้องใช้โฟมล้างหน้า) จากนั้นซับใบหน้าเบาๆด้วยผ้าขนหนู
ข้อแนะนำ : การพิลลิง นวดผิวหน้า ควรทำอย่างเบามือ เนื่องจากการขัดถูที่รุนแรงเกินไปอาจจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้ แนะนำให้ใช้เพียงปลายนิ้วกลาง นาง ก้อย สามนิ้วเท่านั้นในการนวด (พิล อ็อฟ) เซลล์ที่ตายแล้วทุกครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หลังใช้พิลลิง ควรตามด้วยการทาครีมบำรุงผิวเพื่อความชุ่มชื่นเสมอ

คำเตือน
:
1) ระวังอย่างให้เข้าตา ,ห้ามรับประทาน
2)
เก็บห่างจากมือเด็ก ,ห่างจากแสงแดด และ ห่างไกล อุณหภูมิที่ร้อนจัด
 
3) ไม่ควรใช้ทุกวัน เนื่องจากจะทำให้ผิวหน้าบางจนเกินความจำเป็น และไวต่อแสงแดดจนเกินไป
 
 

linkที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี ,
DIAMOND PEELING , ดูแลผิวอย่างไร…ให้สวยสมวัยอยู่เสมอ
เครดิต siegsa