เพิ่มความเจิดจรัสให้ดวงตา ด้วย ขนตาปลอม

เพิ่มความเจิดจรัสให้ดวงตา ด้วย ขนตาปลอม

……..เลือกขนตาปลอมที่ถูกใจแล้ว อย่ารอช้า ลงมือปฏิบัติกันเลย เรามีเทคนิคการติดขนตาปลอมมาฝากกัน 2 แบบ

เทคนิคการติดขนตาปลอมบนขนตาจริง
How To : แบบที่ 1
- เขียนอายไลเนอร์ให้เลยหางตามาเล็กน้อย เพื่อเป็นไกด์ไลน์ก่อนติดขนตาปลอม
- ดัดขนตา 3 สเต็ป เริ่มจากโคนขนตา กลางและปลาย
- ปัดมาสคาร่าจากโคนไปยังปลายขนตา ช่วยให้ขนตางอนขึ้น เพื่อให้กลมกลืนกับขนตาปลอมที่จะนำมาติด
- ก่อนติดขนตาปลอม ลองนำมาทาบกับบริเวณขอบตาบนก่อนว่า ขนตาปลอมนั้นยาวไปมั้ย หากยาวไปแนะให้ตัดขนตาปลอมบริเวณหัวตาออกเล็กน้อย เพราะลูกเล่นส่วนใหญ่ของขนตาปลอมมักจะอยู่บริเวณหางตานั้นเอง
- สร้างความโค้งของขนตาปลอม ด้วยการนำหัวท้ายขนตาปลอมมาชนกัน เพื่อง่ายแก่การติดเข้ากับบล็อคตาของเรา
- ทากาวขนตาปลอมด้านที่จะติดในปริมาณที่เหมาะ
- เมื่อกาวแห้งครึ่งหนึ่งแล้ว ใช้แหนบหยิบขนตาปลอมขึ้นมาติด โดยเริ่มจากกึ่งกลาง มาด้านหัวตาและหางตา พยายามติดให้ชิดบริเวณขอบขนตามากที่สุด
- ปัดมาสคาร่าซ้ำอีกครั้ง เพื่อทำให้ขนตาปลอมและขนตาจริงกลมกลืนกัน

เทคนิคการติดขนตาปลอมแบบช่อ
How To : แบบที่2
- ดัดขนตา 3 สเต็ป เริ่มจากโคนขนตา กลาง และปลาย
- ปัดมาสคาร่าจากโคนไปยังปลายขนตา ช่วยให้ขนตางอนขึ้น เพื่อให้กลมกลืนกับขนตาปลอมที่จะนำมาติด
- ใช้แหนบหยิบขนตาทีละช่อ เพื่อทากาวด้านที่จะติด
- แซมขนตาปลอมทีละช่อระหว่างขนตาจริงที่เราปัดมาสคาร่าไปแล้ว
- ปัดมาสคาร่าซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้ขนตาจริงและขนตาปลอมดูกลมกลืนกันอย่างเป็นธรรมชาติ

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี ,6 สเต็ปง่ายๆ…พิชิตเซลลูไลท์

เครดิต bewtychic

ติดตามอ่านได้ใน นิตยสาร Ray.

15 ทริคเด็ด…เพื่อผมสวย

15 ทริคเด็ด…เพื่อผมสวย

 

     หากสาวๆ women.mthai อยากมีเส้นผมสุขภาพดีเงางามไม่ใช่เรื่องยากเกินไป เพียงแค่คุณหันมาเอาใจใส่ใน
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งพยายามหาเคล็ดลับการดูแลเส้นผมต่างๆ มาทำเป็นประจำก็ช่วยได้เยอะเช่นเดียว
กัน เพราะฉะนั้นคราวนี้สไปซี่เลยนำเอา 15 ทริคเด็ดๆ ที่จะช่วยให้เส้นผมของคุณสาวๆ ดูดีขึ้นได้มาฝากกันค่ะ


     1 ไม่เช็ดขยี้ผมด้วยผ้า หรือหวีผมแรงๆ ในขณะที่ผมยังคงเปียกอยู่ เพราะจะทำให้ผมอ่อนที่กำลังงอกใหม่หรือผมที่รากผมไม่แข็งแรงหลุดร่วงได้

     2 อยากมีผมดกดำไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องรบกวนสูตรเด็ดๆ ตั้งแต่สมัยคุณยายกันเลยที่เดียวค่ะ สูตรที่ว่าคือการหมักด้วยน้ำมันมะพร้าวบ้างล่ะ หรือจากการนำเอาน้ำจากดอกอัญชันมาหมักก็ได้ผลดี เหมาะสมกับสาววัย 30 อัพมากๆ เลยล่ะคะ เพราะเป็นการป้องกันผมหงอกได้เป็นอย่างดี ยืดอายุให้ผมดกดำ ทำให้คุณดูเอ๊าะขึ้น


     3 สำหรับสาวๆ ที่รักการทำสีผม หลังจากที่ทำสีผมแล้วควรที่จะตัดปลายผมทิ้งด้วยประมาณ 1 นิ้วค่ะ เพราะปลายผมที่ว่าจะอ่อนแอกว่าผมส่วนอื่นๆ ทำให้ง่ายต่อการถูกทำลาย ฉีกขาดเปราะบางและแตกปลายง่าย ทางที่ดีต้องกำจัดออกไปเลยดีกว่า ไม่ต้องรู้สึกเสียดายนะคะ เพราะถ้าหากว่าคุณปล่อยไว้มันก็ไม่มีทางกลับมาดีได้เหมือนเดิม


     4 หมั่นเติมสีที่โคนผม อย่าปล่อยให้เป็นสีทูโทนแนวว่าด้านล่างสีทองแต่โคนนี่สีดกดำ อย่าเชียวนะคะมันดูไม่เวิร์คเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นควรเติมสีประมาณเดือนครั้งดีกว่าค่ะ เพื่อสีผมที่ดูสม่ำเสมอ


     5 ส่วนสาวๆ ที่ผ่านการทำสารเคมี มากกว่า 2 ครั้งต่อ 1 เดือน คุณต้องรีบ จัดการล้างสารพิษที่ตกค้างอยู่บนเส้นผมแล้วล่ะคะ โดยปกติร้านซาลอนใหญ่ๆ มักจะมีให้บริการดีท็อกซ์ผมด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 700-1500 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของผลิตภัณฑ์ และขนาดความยาวของเส้นผมด้วย


     6 ถ้าคุณเป็นสาวผมดัด หลังจากที่คุณสระผมเสร็จแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องเป่าผมให้แห้งสนิทหรอกนะคะ แค่เป่าด้วยลมเย็นๆ ครู่นึง จากนั้นก็ใส่มูสแล้วก็ปล่อยผมให้แห้งตามธรรมชาติ คุณก็จะได้ลอนผมที่จับตัวที่ดีกว่าแถมยังแก้ปัญหาลอนผมแตกตัวที่จัดทรงยาก อีกด้วยค่ะ

     7 การใช้หวีซี่คมๆ น่ะเลิกได้แล้วนะคะ สาวๆ บางคนที่ชอบจะใช้หวีซี่คมมาเกาศีรษะในขณะที่คัน การที่ทำแบบนั้นจะทำเกิดปัญหาหนังศีรษะอักเสบ เกิดแผลติดเชื้อ และอีกอย่างที่ตามมาก็คือปัญหารังแคที่สุดแสนจะกวนใจ


     8 แต่ถ้าหากคุณมีปัญหาเรื่องหนังศีรษะแล้ว คุณก็ไม่ควรจะหมักผมด้วยเบียร์ น้ำส้มสายชู หรือ มะกรูดนะคะ
เพราะมันจะยิ่งส่งผลให้รุนแรงมากขึ้น จะทำให้คุณรู้สึกแสบมากๆ มาเปลี่ยนเป็นการหมักด้วยไข่ขาวเคลือบผมท่า
จะเวิร์คนะคะ ไม่ส่งผลกระทบแล้วยังเงางามเล็กน้อย


     9 เสียเงินเซ็ตผมมาตั้งหลายตังค์ แต่ว่าพอตื่นเช้ามาผมเจ้ากรรมกลับยุ่งเหยิง วิธีแก้ได้ง่ายๆ ไม่ยากอย่างที่คิดคะ เพียงแค่ก่อนนอนคุณใช้ผ้าพันคอพันไว้ใต้ผมตรงท้ายทอย แค่นี้ก็สามารถรักษาสภาพเส้นผมที่เซ็ตมาเป็นอย่างดีให้อยู่ทรงได้สวยเด้ง เหมือนเดิม


     10 หากพูดถึงเรื่องนอนแล้ว รู้รึปล่าวคะว่าเครื่องนอนอย่างปลอกหมอนก็มีส่วนช่วยถนอมเส้นผมได้เหมือนกัน
คุณลองลงทุนเสียเงินเพิ่มอีกสักนิดซื้อปลอกหมอนผ้าซาตินหรือผ้าไหมมาใช้รับรองปัญหาผมไฟฟ้าสถิตที่เกิดขึ้น
กับเส้นผมก็จะหมดไป… (ถ้าอยากสวยก็ต้องลงทุนกันสักนิดนะคะ)


     11 วันไหนที่ผมของเราต้องเผชิญมลภาวะต่างๆ อย่างเช่น พวกฝุ่นละอองทั้งหลายแหล่ พอกลับบ้านมาก็ควรทำความสะอาดเส้นผมทันทีดีกว่าค่ะ แต่ถ้าหากว่าไม่สะดวกจริงๆ ก็ควรคลุมผมด้วยหมวกคลุมผมให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกสัมผัสกับใบหน้าสวยๆ ของเรา ซึ่งฝุ่นละอองนั้นเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดสิวนั่นเองค่ะ


     12 ช่วงไหนที่คุณรู้สึกเครียดจากการทำงานหรือว่าการสอบ คุณอาจจะมีปัญหาเรื่อง เส้นผมหลุดร่วง มากกว่าปกติ ไม่ต้องเครียดเข้าไปอีก เพราะเรามีวิธีแก้มาฝากคือ ควรที่จะหันมากินไข่แดง ปลาทะเลหรือธัญพืชเยอะๆ เพราะประโยชน์จากสารอาหาร เหล่านี้จะช่วยป้องกันผมร่วงจากภายในได้


     13 การใช้ทรีตเม้นท์บำรุงผมแทนครีมนวดผมทุกครั้งนั้น เป็นวิธีที่เหมาะกับสาวๆ ที่มีผมแห้งเสียรุนแรงมากกว่าเพราะทรีตเม้นท์ที่มีความเข้มข้นมากไป จะก่อให้เกิดสารตกค้างสะสม ทำให้เส้นผมมีความมันมากเกินไป ไม่พริ้วตัวสลวยอย่างเป็นธรรมชาติ


     14 ช่วงไหนที่รู้สึกว่าเส้นผมกำลังแห้งเสีย ที่ มีสาเหตุมาจากการโดนแดดเผา ลองใช้มายองเนส 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำเข้าไปไมโครเวฟให้มีความร้อนอุ่นพอประมาณ จากนั้นนำมาชโลมให้ทั่วศีรษะ หวีด้วยหวีที่ซี่ห่างๆ แล้วพันทับด้วยหมวกแบบผ้าหรือผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นก็สระออกตามปกติโดยสระเพียงแค่ครั้งเดียวนะคะ ไม่ต้องใช้ครีมนวดผม เท่านี้ผมก็นิ่มและชุ่มชื้นขึ้นกว่าเดิม


     15 ข้อนี้จะเป็นสูตรดูแลสุขภาพเส้นผมด้วยผลไม้นะคะ เริ่มที่ตักเนื้อมะละกอสุก 2 ช้อนโต๊ะ กล้วยหอม 1/3 ลูก สตรอเบอร์รี่ 2 ลูก และน้ำแอปเปิ้ล 3 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นรวมกันแล้วใช้หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ให้วิตามินจากผลไม้ทำหน้าที่บำรุงเส้นผม

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี ,  จัดการกับ “ผมดัด” ให้โดดเด้ง
 เครดิต bewtychic

วิธีถอนขนคิ้ว ด้วยตัวเอง

วิธีถอนขนคิ้ว ด้วยตัวเอง

 

       หากใครที่อยากมีคิ้วสวย แต่ไม่รู้จะถอนขนคิ้วอย่างไร เรามีวิธีถอนขนคิ้วมาบอก โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ไม่ต้องไปร้านเสริมสวยให้เสียเงิน

       1.ก่อนลงมือถอน ควรเตรียมผิวด้วยการลงเจลสูตรบางเบา ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ ดอกคาโมไมล์ และน้ำมันสะระแหน่ เพื่อให้เกิดความเย็นและลดการอักเสบในระหว่างและหลังการถอนคิ้วเวลาถอนจะได้ เจ็บน้อยลง

         2.ใช้ดินสอเขียนคิ้วเขียนรูปคิ้วที่ต้องการก่อน แล้วค่อยถอนส่วนที่เกินออก ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นหรือสิ้นสุดตรงไหน ให้ใช้ดินสอวาดขอบตาวางทาบเป็นแนวตรง จากด้านข้างของปลายจมูก แล้วถอนส่วนที่เกินออกมาทั้ง 2 ข้าง จากนั้นหันดินสอทาบจากปลายจมูกไปถึงหางตา ถอนส่วนที่เกินออกมาจากด้านนอกของแนวดินสอ

         3.เก็บรายละเอียดที่ใต้คิ้ว ตรงไหนเกินออกมาจากแนวคิ้วก็ถอนออกให้หมด หรือถ้าเผลอถอนออกมากเกินไป ก็สามารถใช้ดินสอเขียนคิ้วตกแต่งเพิ่มได้

        เพียงเท่านี้ก็จะได้คิ้วที่สวยได้รูปตามใจตัวเอง ใบหน้าสวยด้วยมือเรา

ที่มาจาก thaiza.com

 link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี ,  ผมจัดทรงยาก มีทางแก้

เครดิต bewtychic

พฤติกรรมนี้..กลับมาต้องสระผมด่วน

พฤติกรรมนี้..กลับมาต้องสระผมด่วน

         บางครั้งกิจกรรมบางอย่างที่คุณกำลังทำอยู่คุณอาจกำลังคิดว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นอันตรายต่อเส้นผมของคุณ แต่ช้าก่อนค่นั่นอาจเป็นการคิดที่ผิดเพราะกิจกรรมบางอย่างที่คุณออกไปทำมา ทั้งวันอาจต้องเจอกับมลภาวะมากมายและนั่นจะส่งผลโดยตรงต่อเส้นผมของคุณ เราจึงขอแนะนำให้คุณรีบสระผมหลังจากที่ทำกิจกรรมต่อไปนี้ค่ะ….

    1. เที่ยวผับ เพราะผมที่เหนอหนะจากเหงื่อหลายปี๊บที่เกิดจากการเต้นอย่างสุดมันนั้น จะสะสมฝุ่นละอองและความสกปรกได้ดีกว่าปกติอีกเป็นเท่าตัว แถมยังต้องเจอกับควันบุหรี่ที่ทำร้ายผมอย่างแรงเข้าไปด้วย

    2. ดูคอนเสิร์ต โดยเฉพาะคอนเสิร์ตที่ต้องกระโดดกันจนเหงื่อชุ่ม

    3. เล่นกีฬา ทั้งเปียกทั้งเหม็น แล้วอย่างนี้จะไม่สระอีกหรือ

    4. เล่นกีฬาทางน้ำ แหล่งน้ำต่างๆ นั้นถึงจะดูสะอาด แต่จริงๆ แล้วเต็มไปด้วยความสกปรก และเชื้อโรคที่มองไม่เห็น ส่วนน้ำตามสระที่ผสมคลอรีนนั้น ยิ่งต้องรีบกลับมาสระผม เพราะจะกัดและทำลายผมให้แห้งกร้านและเสียได้ ถ้าหาแชมพูกำจัดคลอรีนโดยเฉพาะมาใช้ได้ด้วยก็จะดีมาก

    5. เดินช็อปปิ้งที่ตลาดนัดกลางแจ้ง โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน เพราะตลาดนัดก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่รวมฝุ่นละอองและความสกปรกไว้มากมาย

    6. จัดทรงด้วยผลิตภัณฑ์แต่งผม ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมทั้งหลายนั้นใช้แล้วต้องสระออกให้สะอาดทันทีที่ทำได้ เพราะถ้าปล่อยไว้นานๆ สารเคมีในผลิตภัณฑ์ เหงื่อไคล และสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ จะทำปฏิกิริยากันจนทำให้ผมและหนังศรีษะมีปัญหาได้

    7. เมื่อผมเริ่มมันเยิ้มและจับตัวเป็นก้อนๆ ต้องรีบสระเพื่อกำจัดน้ำมันส่วนเกินที่อุดตันตามหนังศรีษะออกไปให้เร็วที่สุด

    8. เมื่อผมเริ่มมีกลิ่นเหม็น ซึ่งเป็นสัญญาณแห่งความสกปรกที่มาจากน้ำมัน บวกกับคราบเหงื่อ และความสกปรกที่ตกค้างบนหัวมานาน

    9. เมื่อเริ่มรู้สึกคันหัวอย่างรุนแรง โดยไม่ได้เป็นรังแค นั่นแสดงว่าหนังศรีษะเริ่มระคายเคืองจากความมันและสิ่งสกปรก เป็นสัญญาณเตือนว่าสระผมได้แล้ว

    10. เมื่อไม่ได้สระผมมาเกิน 2 วัน ก็ได้ฤกษ์สระแล้วละมั้ง


ที่มาจาก คู่มือคนอยากหล่อ (กุ๊กไก่-สกล)

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี ,  วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้ผมที่ไม่ได้สระดูไม่มัน 

เครดิต bewtychic

แป้งแบบไหน…ใช่สำหรับคุณ

แป้งแบบไหน…ใช่สำหรับคุณ

     “ผู้หญิง” อย่างเราไม่ว่าใครก็อยากมีใบหน้าที่สวยเนียนเรียบ ปราศจากความมันตลอดวันด้วยกันทั้งนั้น เป็น
ไหมคะที่ใบหน้าของเรานั้นดูสวยเนียนในตอนเช้า แต่พอถึงช่วงบ่ายนี่สิ กลับมันเยิ้มไปได้ ปัญหาคาใจเหล่านี้ จะ
หมดไป หากคุณสาวๆ รู้จักเลือกใช้แป้งให้เหมาะสมกับกิจวัตรประจำวันค่ะ เพราะว่าแป้งที่ทา จะช่วยให้คุณ
สามารถรับมือกับปัญหาหน้ามันได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยให้เมกอัพอื่นๆ เช่น อายแชโดว์ บลัชออน คิ้ว ที่เราแต่ง
แต้มลงบนใบหน้าติดทนไม่ลบเลือนตลอดทั้งวัน ทั้งยังช่วยให้ใบหน้าของเราดูสดใส ไม่มันวาวอีกด้วย
     วันนี้ women.mthai ขอเสนอเคล็ดลับในการเลือกแป้งสำหรับคุณสาวๆ โดยแป้งเมย์เบลลีน จากนิวยอร์ก มา
ฝากกันค่ะ


มาทำความรู้จักชนิดของ “แป้ง” กันก่อนค่ะ


     แป้งอัดแข็งหรือแป้งฝุ่น แป้งชนิดนี้มีเนื้อที่บางเบา จึงไม่ได้ช่วยในเรื่องของการปกปิดริ้วรอยใด ๆ จะเน้นให้
ใบหน้าดูเนียนใส เป็นธรรมชาติ และไม่มันวาวมากกว่า

     แป้งผสมรองพื้น จะมีส่วนผสมของรองพื้น ซึ่งช่วยปกปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้า และทำให้ใบหน้าดู
เนียนสวย

     แป้งผสมครีมรองพื้น เป็นแป้งที่เพิ่มระดับของครีมรองพื้นลงไปในเนื้อแป้ง จึงช่วยให้ผิวดูสวยเนียนสนิท ปก
ปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ รวมถึงรูขุมขนที่เห็นได้ ชัดได้เป็นอย่างดี

แล้ว “แป้ง” แบบไหนล่ะที่เหมาะกับคุณ


     หากคุณเป็นสาวชิวชิว…หรืออยู่ในวันพักผ่อนสบาย ๆ แป้งอัดแข็งไม่ผสมรองพื้นเหมาะที่สุดค่ะ เพราะทาแล้ว
ผิวหน้าจะดูเนียน บางใส เป็นธรรมชาติ ข้อแนะนำคือ ควรใช้ควบคู่กับรองพื้นชนิดครีมเนื้อเบา เพราะเนื้อแป้งจะ
หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผิวได้เป็นอย่างดี

     หากคุณเป็นสาวกระฉับกระเฉง…ต้องการความมั่นใจในช่วงวันทำงาน แป้งผสมรองพื้นเป็นแป้งอัดแข็งที่บรรจุ
อยู่ในตลับคือคำตอบค่ะ ใช้กับพัฟฟ์ฟองน้ำ ข้อดีของแป้งชนิดนี้คือ นอกจากจะช่วยให้ใบหน้าเนียนสวยตั้งแต่ทา
ครั้งแรกแล้ว ยังสามารถใช้เติมระหว่างวันให้ใบหน้าดูนวลเนียน และพกพาได้สะดวกอีกด้วย

     หากคุณเป็นสาวฮอต…ต้องสวยเนียนสุด ๆ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำเพื่อพร้อมเสมอสำหรับงานปาร์ตี้ ต้องใช้แป้งผสม
ครีมรองพื้น เพราะมอบผลลัพธ์ผิวเนียนสนิท ปกปิดทุกรูขุมขนได้ตลอดวัน และทำให้ผิวดูนุ่มนวล


เนื้อหาจาก : ไทยโพสต์
link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี ,  ดวงตาสวยด้วยก้อนหิน
เครดิต bewtychic 

ร้านใหม่

ร้านใหม่

ร้านใหม่

ร้านใหม่

ร้านใหม่

เทคนิคทำความสะอาด อุปกรณ์แต่งหน้า

เทคนิคทำความสะอาด อุปกรณ์แต่งหน้า

……….เดือน ละครั้ง รวบรวมอุปกรณ์แต่งหน้าทั้งหมดมาทำความสะอาดครั้งใหญ่ เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังกำชับนักหนาว่า ถ้ามัวแต่ใช้ ไม่หมั่นทำความสะอาด อุปกรณ์ทำสวยอาจกลายเป็นอุปกรณ์ทำ (หน้า) เสีย

พัฟฟ์
● แกว่งพัฟฟ์หรือฟองน้ำผ่านน้ำจนชุ่มทั่วแผ่น แล้วบีบเศษแป้งที่ติดอยู่บนพัฟฟ์ออกก่อน
● แช่พัฟฟ์ลงในน้ำอุ่นที่ผสมสบู่เหลวประมาณ 10 นาที
● ใช้มือขยี้พัฟฟ์เบาๆ จนสะอาด
● ล้างออกด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง จากนั้นผึ่งลมให้แห้ง
แปรงสำหรับรองพื้น
● เทเบบี้ออยล์หรือน้ำมันมะกอกลงบนจานจุ่มแปรงแกว่งไปมาเพื่อให้สีของรองพื้นหลุดออกจากขนแปรง
● เทสบู่เหลวลงบนจาน และแกว่งแปรงไปมาอีกครั้ง
● ล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยใช้มือบีบขนแปรงเบาๆ
● ใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆ ตามแนวขนแปรง (ห้ามขยี้เพราะจะทำให้ขนแปรงเสียรูป) แล้วนำไปผึ่งให้แห้ง

แปรงแต่งหน้า
● แกว่งแปรงแต่งหน้าวนในน้ำผสมสบู่ในลักษณะทวนเข็มนาฬิกา
● ล้างออกในน้ำสะอาดด้วยวิธีวนทวนเข็มนาฬิกา จากนั้นใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆ

พู่กันแต่งตา-ปาก
● แกว่งพู่กันไปมาในน้ำผสมสบู่อ่อนๆ
● แกว่งแปรงในน้ำสะอาดจนหมดคราบสบู่ ใช้ผ้าขนหนูซับตามทิศทางของขนแปรง
Tip: หลังจากการใช้งานทุกครั้งควรปัดปลายแปรงลงบนกระดาษทิชชู เพื่อให้สีของเมคอัพไม่จับตัวกันเป็นก้อน
ที่ดัดขนตา
● ใช้สำลีชุบโลชั่นทำความสะอาดเครื่องสำอางรอบดวงตามาเช็ดส่วนที่เป็นโลหะ
● เช็ดออกอีกครั้งด้วยกระดาษทิชชู สำหรับเนื้อยางควรเปลี่ยนทุกๆ 2 – 3 เดือน
อ่านเพิ่มเติมในคอลัมน์ Beauty Healthy นิตยสาร สุดสัปดาห์

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี,สูตรกระชับรูขุมขน ให้สวยใสเรียบเนียน
เครดิต bewtychic 

Promotion พิเศษ สำหรับเดือนแห่งความรัก

เครดิต bewtychic

สิวเสี้ยน และ สิวอักเสบ

สิวเสี้ยน และ สิวอักเสบ

สิวเกิดขึ้นเพราะต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากไป ประกอบกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วอุดตันในรูขุมขนทำให้เกิดเป็นสิวเสี้ยนที่ มองเห็นเป็นจุดดำๆ บริเวณจมูก คาง และแก้ม แต่ถ้าหากมีน้ำมันและแบคทีเรียสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้เกิดสิวอักเสบซึ่งมีลักษณะบวมแดงหรือเป็นหนอง
ในกรณีที่สาวๆ มีเวลาจำกัดแต่ต้องการกำจัดสิวเสี้ยนอย่างเร่งด่วน ให้ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนแทนการบีบออกนะคะเพราะอาจทำให้สิวเสี้ยนกลายเป็นสิว อักเสบได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ควรใช้บ่อยเกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์เพราะจะทำผิวให้ระคายเคือง ทางที่ดีควรทาครีมซึ่งมีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ (Retinoic Acid) หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ความเข้มข้นต่ำก่อนเข้านอน<
สำหรับบางคนที่มีผิวแพ้ง่ายให้ทาทิ้งไว้ 10 – 20 นาทีแล้วล้างออกเพื่อช่วยละลายไขมันอุดตัน
สำหรับสิวอักเสบ ใคร มียาแต้มที่ช่วยลดอาการบวมแดงอยู่แล้วก็สามารถทาได้เลย แต่ถ้าชอบวิธีรักษาแบบธรรมชาติ ให้ผสมผงขมิ้นละลายน้ำและน้ำผึ้งพอข้นเหนียว แต้มทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาดแล้วแต่งหน้าตามปกติ
หากต้องการเพิ่มความมั่นใจด้วยการลงรองพื้นเพื่อช่วยปกปิดก็ควรเลือกชนิดที่ไม่มีน้ำมันผสมอยู่มาก


link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี,Workout อย่างไรให้ลดน้ำหนักชัวร์ๆ
เครดิต bewtychic

อ่านเพิ่มเติมในคอลัมน์ Beauty นิตยสาร Health & Cuisine

เคล็ดลับสร้างลุคสวยใส สไตล์เกาหลี

เคล็ดลับสร้างลุคสวยใส สไตล์เกาหลี

        อยากสวยใสสไตล์ซูเปอร์สตาร์สาวชาวเกาหลีไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม เคล็ดลับสร้างผิวผุดผ่องและเรียบเนียน

            ผิวพรรณที่ดูขาวใสและเรียบเนียนคือหัวใจสำคัญของลุคแบบสาวเกาหลี และถึงแม้ผิวคุณจะไม่ขาวใสเท่าสาวเกาหลี คุณก็สามารถ สร้าง "กลิ่นอาย" แบบเดียวกันได้ ด้วยการสร้างผิวที่ดูเรียบเนียนและเปล่งปลั่งในแบบที่เป็นธรรมชาติที่สุด ด้วยการปกปิดข้อบกพร่องและสร้าง สรรค์ผิวที่ดูเรียบเนียน ในแบบที่เหมือนไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย และนี่คือวิธีการ

             เลือกสีรองพื้นให้ถูกต้อง การพยายามจะ "เปลี่ยน" สีผิวให้ขาวขึ้นกว่าเดิมด้วยรองพื้นเป็นความคิดที่ผิด เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้คุณ ดูไม่เป็นธรรมชาติ ยังจะเน้นถึงสิ่งที่คุณต้องการจะเปลี่ยนมากยิ่งขึ้น วิธีที่ถูกต้องคือการเลือกรองพื้นที่สีใกล้เคียงหรือตรงกับสีผิวของคุณมากที่สุด มันจะให้สีผิวทีดูเป็นธรรมชาติ แต่เรียบเนียนขึ้นกว่าเดิม และนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้ผิวของคุณดู "เด้ง" ขึ้นกว่าที่เคยเป็น

             วิธีง่าย ๆ ในการเลือกสีรองพื้นที่เหมาะสม ก็ คือ ทดสอบสีรองพื้นบนใบหน้าเสมอ และทาลงบนพื้นที่สามถึงสี่แห่ง เช่น แนวกราม แก้ม จมูก และกึ่งหลางหน้าผาก เพื่อดูว่ารองพื้นตัวนั้น ไม่เพียงแต่จะเข้ากับสีผิวของคุณจริง ๆ แต่ยังทำให้ลักษณะของผิวดูดีขึ้นด้วย เช่น ทำให้เห็นรู ขุมนน้อยลง และทำให้ผิวดูผุดผ่องขึ้น และควรซื้อรองพื้นอย่างน้อยสองสี เพื่อใช้ผสมกันให้ได้สีที่ตรงกับผิวมากขึ้นแล้ว สีอ่อนยังสามารถใช้ทา บริเวณโหนกแก้ม สันจมุก และใต้ดวงตา เพื่อเพิ่มความผุดผ่องให้แก่บริเวณเหล่านั้นได้ ขณะที่สีเข้มสามารถใช้ทาเพื่อพรางรูปหน้าได้

              เคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกและใช้คอนซีลเลอร์ เรื่องแรกก็คือ เรื่องของ "สี" สีของคอนซีลเลอร์ขึ้นอยู่กับบริเวณที่คุณจะทา ถ้าต้องการ ปกปิดรอยคล้ำตา คอนซีลเลอร์สีออกเหลืองนิด ๆ จะเหมาะสมที่สุด เพราะมันจะช่วยแก้สีน้ำเงินของรอยคล้ำบริเวณนี้ให้ดูเป็นกลางขึ้นได้ ส่วน รอยสิวที่มักมีรอยนูนและแดง ลองหาคอนซีลเลอร์ที่เนื้อแน่น ๆ หน่อย เพื่อจะปกปิดได้แนบเนียนและติดทนาน หรืออาจมองหาคอนซีลเลอร์ชนิด เจือสีเขียว ที่ช่วยแก้รอยแดงของสิวได้ด้วย หรือถ้าคุณมักมีรอยจ้ำแดง ๆ เกิดขึ้นบนผิวได้ง่าย คุณอาจใช้เมคอัพเบสสีเขียว เพื่อแก้รอยแดงของ สีผิว แต่ต้องทารองพื้นเนื้อบางเบาทับ ไม่เช่นนั้นรองพื้นสีเขียวจะทำให้สีผิวคุณดูเป็นสีเทา ส่วนจุดด่างดำควรเลือกคอนซีลเลอร์ที่สีอ่อนกว่าผิว เล็กน้อยเท่านั้น ถ้าสีสว่างเกินไปจะยิ่งดึงความสนใจมายังบริเวณนี้มากขึ้น

              เติมความผุดผ่อง รองพื้นไม่ควรใช้เพื่อการเปลี่ยนสีผิว แต่หากคุณอยากให้ผิวของคุณดูสว่างกระจ่างใสขึ้น ลองมองหาผลิตภัณฑ์เพิ่ม ความเรืองรอง (Illuminator) ที่จะทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น อาจผสมผลิตภัณฑ์เพิ่มความเรืองรองแบบครีมลงในรองพื้น หรือทาทับลงบนรองพื้น ในบริเวณที่แสงตกกระทบ เช่น โหนกแก้ม กลางหน้าผาก แต่อย่าทามากกินไป หากไม่อยากให้ผิวดูเป็นมันเยิ้ม

link ที่เกี่ยวข้อง เครื่องสำอางเกาหลี,ริมฝีปากคล้ำ ทำไงดี?
เครดิต bewtychic 

ที่มาจาก Lisa